ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 16,493.37 จุด ลดลง 69.93 จุด หรือ 0.42% ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 4,352.64 จุด ลดลง 17.13 จุด หรือ 0.39% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 1,925.15 จุด ลดลง 5.52 จุด หรือ 0.29%
ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดปรับตัวลงเมื่อคืนนี้ เนื่องจากตลาดยังคงรับปัจจัยลบจากภายนอก อาทิ ข่าวการผิดนัดชำระหนี้ของรัฐบาลอาร์เจนตินา และตัวเลขเงินเฟ้อยูโรโซนที่ลดลงแตะระดับต่ำสุดในรอบเกือบ 5 ปี
ขณะเดียวกัน ตลาดหุ้นนิวยอร์กไม่สามารถฟื้นแรงบวกได้ แม้ว่าเมื่อคืนนี้สหรัฐจะเปิดเผยข้อมูลเชิงบวกบางส่วน โดยกระทรวงแรงงานสหรัฐรายงานเมื่อคืนนี้ว่า ตัวเลขจ้างงานนอกภาคการเกษตรปรับตัวเพิ่มขึ้น 209,000 ตำแหน่งในเดือนก.ค. ขณะที่อัตราว่างงานขยับขึ้นสู่ระดับ 6.2%
ทั้งนี้ ตัวเลขจ้างงานเดือนก.ค.เพิ่มขึ้นน้อยกว่าที่นักเศรษฐศาสตร์คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 230,000 ตำแหน่ง อย่างไรก็ดี นับเป็นเดือนที่หกติดต่อกันที่ตัวเลขจ้างงานนอกภาคการเกษตรปรับตัวขึ้นมากกว่า 200,000 ตำแหน่ง หลังจากปรับตัวขึ้น 298,000 ตำแหน่งในเดือนมิ.ย.
ขณะที่สถาบันจัดการอุปทานของสหรัฐ (ISM) เปิดเผยว่า ดัชนีภาคการผลิตของสหรัฐปรับตัวขึ้นสู่ระดับ 57.1 ในเดือนก.ค. จากระดับ 55.3 ในเดือนมิ.ย. โดยตัวเลขเดือนล่าสุดนั้นเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนเม.ย.2554
ข้อมูลจากมาร์กิต อีโคโนมิกส์เมื่อคืนนี้สะท้อนการฟื้นตัวของภาคผลิตสหรัฐเช่นกัน โดยดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตขั้นสุดท้ายในเดือนก.ค.ของสหรัฐจากมาร์กิต ลดลงสู่ระดับ 55.8 ซึ่งต่ำกว่าตัวเลขเบื้องต้นที่ 56.3 และต่ำกว่าระดับ 57.3 เดือนมิ.ย. อย่างไรก็ดี ดัชนีที่อยู่เหนือระดับ 50 บ่งชี้ว่ากิจกรรมในภาคการผลิตสหรัฐยังคงขยายตัวในเดือนก.ค.
หุ้น LinkedIn ผู้ให้บริการโซเชียลเน็ตเวิร์กด้านอาชีพ พุ่งขึ้น 12% หลังจากตัวเลขประมาณการยอดขายในไตรมาส 3 ของบริษัทออกมาดีเกินคาดหมายของนักวิเคราะห์
หุ้น P&G พุ่งขึ้น 3% เนื่องจาผลประกอบการบริษัทออกเกินเป้าหมายนักวิเคราะห์ จากการลดต้นทุนและการขึ้นราคาสินค้า
หุ้น GoPro ซึ่งเป็นบริษัทผลิตกล้อง ร่วง 15% หลังบริษัทเผยว่าขาดทุนสุทธิในไตรมาส 2 อยู่ที่ 19.8 ล้านดอลลาร์