ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์กดาวโจนส์ปิดบวก 29.83 จุด รับข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐสดใส

ข่าวหุ้น-การเงิน Wednesday August 27, 2014 06:26 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (26 ส.ค.) ขณะที่ดัชนี S&P 500 ปิดที่เหนือระดับ 2,000 จุดเป็นครั้งแรก เนื่องจากนักลงทุนขานรับข้อมูลเศรษฐกิจที่สดใสของสหรัฐ รวมถึงยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนและดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 17,106.70 จุด เพิ่มขึ้น 29.83 จุด หรือ +0.17% ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 4,570.64 จุด เพิ่มขึ้น 13.29 จุด หรือ +0.29% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,000.02 จุด เพิ่มขึ้น 2.10 จุด หรือ +0.11%

ตลาดหุ้นนิวยอร์กดีดตัวขึ้นขานรับข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งของสหรัฐ โดยเมื่อช่วงค่ำวานนี้ตามเวลาไทย กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนทำสถิติพุ่งสูงเป็นประวัติการณ์ถึง 22.6% ในเดือนก.ค. ซึ่งเป็นการเพิ่มขึ้นมากที่สุดนับตั้งแต่ปี 2535 และสูงกว่าที่นักเศรษฐศาสตร์คาดการณ์มาก เนื่องจากความต้องการเครื่องบินพาณิชย์ที่ปรับตัวขึ้นแข็งแกร่ง

ด้านสแตนดาร์ด แอนด์ พัวร์/เคส ชิลเลอร์เปิดเผยว่า ดัชนีราคาบ้าน 20 เมืองในเดือนมิ.ย. ปรับตัวขึ้น 8.1% จากเดือนเดียวกันของปีที่แล้ว และเมื่อเทียบรายเดือน ดัชนีราคาบ้านใน 20 เมืองที่สแตนดาร์ด แอนด์ พัวร์/เคส ชิลเลอร์ติดตามสำรวจราคา ปรับตัวขึ้น 1% ในเดือนมิ.ย. ซึ่งเป็นการปรับตัวขึ้นรายเดือนเป็นเดือนที่สี่ติดต่อกัน

นอกจากนี้ สำนักงานเงินกู้เพื่อที่อยู่อาศัยของรัฐบาลกลางสหรัฐ (FHFA) รายงานว่า ราคาบ้านของสหรัฐปรับตัวขึ้น 0.8% ในไตรมาสสองของปี 2557 ซึ่งเพิ่มขึ้นเป็นไตรมาสที่ 12 ติดต่อกันแล้ว

ขณะเดียวกัน ตลาดยังขานรับข่าวความเคลื่อนไหวในภาคเอกชน โดยเบอร์เกอร์คิง เวิลด์ไวด์ อิงค์ บรรลุข้อตกลงซื้อทิม ฮอร์ตันส์ อิงค์ เป็นเงินสดและหุ้นมูลค่าประมาณ 1.25 หมื่นล้านดอลลาร์แคนาดา (1.1 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ) ซึ่งจะทำให้เกิดเป็นบริษัทฟาสต์ฟู้ดรายใหญ่อันดับสาม และจะมีสำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ในแคนาดา

ทั้งนี้ ข่าวดังกล่าวช่วยหนุนหุ้นทิม ฮอร์ตันส์ พุ่งขึ้น 8.5% แต่หุ้นเบอร์เกอร์ คิง ร่วงลง 4.3%

หุ้น Amazon.com ปรับตัวขึ้น 2.3% หลังจากมีรายงานว่า Amazon.com เตรียมซื้อกิจการบริษัท Twitch มูลค่า 970 ล้านดอลลาร์ ขณะที่หุ้นดีเอสดับเบิลยู ซึ่งเป็นบริษัทค้าปลีกรองเท้ารายใหญ่ พุ่งขึ้น 9.2% หลังจากบริษัทเปิดเผยผลกำไรที่สูงเกินคาด

ส่วนหุ้นเบสท์บาย ร่วงลง 6.9% หลังจากบริษัทเปิดเผยว่า ยอดขายในไตรมาส 2 ลดลง 2.7% ซึ่งมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะลดลงเพียง 2.2%


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ