หลังจากตลาดเปิดทำการได้ไม่นานนัก ดัชนีดาวโจนส์ปรับตัวลง 14 จุด หรือ 0.1% แตะที่ 17,057 จุด ดัชนี S&P 500 ลบ 2 จุด หรือ 0.1% ที่ระดับ 1,976 จุด และดัชนี Nasdaq ลดลง 11 จุด หรือ 0.3% มาอยู่ที่ 4,495 จุด
หุ้นสหรัฐปรับตัวลงต่อเนื่องเป็นวันที่สอง หลังจากที่คอนเฟอเรนซ์ บอร์ด ซึ่งเป็นกลุ่มวิจัยเอกชน เปิดเผยว่า ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคแตะที่ 86.0 ในเดือนก.ย. โดยปรับตัวลงจาก 93.4 ในเดือนส.ค. ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบเกือบ 7 ปี และเป็นการลดลงครั้งแรกในรอบ 5 เดือน
ขณะที่สถาบันจัดการด้านอุปทาน (ISM) ของสหรัฐเปิดเผยว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) เขตชิคาโก ลดลงแตะ 60.5 ในเดือนก.ย. จากระดับ 64.3 ในเดือนส.ค.
ด้านสแตนดาร์ด แอนด์ พัวร์/เคส ชิลเลอร์เปิดเผยว่า ดัชนีราคาบ้าน 20 เมืองในเดือนก.ค. ปรับตัวขึ้น 6.7% จากเดือนเดียวกันของปีที่แล้ว ซึ่งชะลอตัวจากอัตรา 8.1% ในเดือนมิ.ย. และเพิ่มขึ้นในอัตราที่ช้าที่สุดนับตั้งแต่เดือนพ.ย.2555 หรือในรอบ 20 ปี
เมื่อเทียบรายเดือน ดัชนีราคาบ้านใน 20 เมืองที่สแตนดาร์ด แอนด์ พัวร์/เคส ชิลเลอร์ติดตามสำรวจราคา ปรับตัวขึ้น 0.6% ในเดือนก.ค. ซึ่งชะลอตัวลงเมื่อเทียบกับที่เพิ่มขึ้น 1% ในเดือนมิ.ย. หากมีการปรับตามปัจจัยฤดูกาล ราคาบ้านในเดือนก.ค.ลดลง 0.5% เทียบกับที่ลดลง 0.3% ในเดือนมิ.ย.
หุ้นฟอร์ด มอเตอร์ ร่วง 3% หลังบริษัทเผยว่าอาจทำกำไรไม่ได้ตามเป้าในปีนี้ ส่วนหุ้นอีเบย์ ตลาดออนไลน์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก พุ่ง 6.7% หลังจากบริษัทเผยว่าจะแยกธุรกิจเพย์พาลออกมาเป็นบริษัทเดี่ยวในปีหน้า หุ้นมูฟ อิงค์ เจ้าของเว็บไซต์ด้านอสังหาริมทรัพย์ ทะยาน 37% หลังนิวส์ คอร์ป ตกลงเข้าซื้อกิจการ