ภาวะตลาดหุ้นยุโรป: หุ้นยุโรปปิดลบ เหตุวิตกยูโรโซนเผชิญเงินฝืด

ข่าวหุ้น-การเงิน Friday October 17, 2014 06:54 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ตลาดหุ้นยุโรปปิดลบเมื่อคืนนี้ (16 ต.ค.) เนื่องจากนักลงทุนวิตกกังวลว่า เศรษฐกิจยูโรโซนอาจจะเผชิญกับภาวะวิกฤตและอาจจะได้รับผลกระทบจากภาวะเงินฝืด หลังจากมีรายงานว่าตัวเลขเงินเฟ้อของยูโรโซนยังคงปรับตัวลดลงในเดือนก.ย.

ดัชนี Stoxx Europe 600 ปรับตัวลง 0.4% ปิดที่ 310.03 จุด

ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 3,918.62 จุด ลดลง 21.10 จุด หรือ -0.54% ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 8,582.90 จุด เพิ่มขึ้น 10.95 จุด หรือ +0.13% ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6,195.91 จุด ลดลง 15.73 จุด หรือ -0.25%

ตลาดหุ้นยุโรปยังคงได้รับปัจจัยลบจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับวิกฤตเศรษฐกิจในยูโรโซน โดยเฉพาะอย่างยิ่งตัวเลขเงินเฟ้อที่ปรับตัวลดลงอย่างต่อเนื่อง ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่ายูโรโซนมีความเสี่ยงที่จะเผชิญกับภาวะเงินฝืด

สำนักงานสถิติแห่งสหภาพยุโรป หรือยูโรสแตท เปิดเผยว่า เงินเฟ้อของยูโรโซนปรับตัวลงแตะ 0.3% ในเดือนก.ย. จากระดับ 0.4% ในเดือนส.ค. โดยเงินเฟ้อเดือนก.ย.ถือเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนต.ค. 2552

ก่อนหน้านี้ นายมาริโอ ดรากิ ประธานอีซีบีส่งสัญญาณว่าอีซีบีพร้อมที่จะเปิดตัวโครงการซื้อสินทรัพย์ขนานใหญ่ของรัฐบาล หรือที่เรียกกว่ามาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) เพื่อป้องกันเศรษฐกิจยูโรโซนจากภาวะเงินฝืด หลังจากตัวเลขเงินเฟ้อของยูโรโซนเคลื่อนไหวที่ระดับต่ำกว่าเป้าหมาย 2% ของอีซีบีอยู่มาก

อย่างไรก็ตาม ตลาดได้รับแรงหนุนในระดับหนึ่ง หลังจากนายเจมส์ บุลลาร์ด ประธานเฟดสาขาเซนต์หลุยส์ได้กล่าวแสดงความคิดเห็นว่า เฟดควรจะพิจารณาเรื่องการเลื่อนเวลาสิ้นสุดโครงการซื้อสินทรัพย์

หุ้นเนสท์เล่ ร่วงลง 3% หลังจากบริษัทเปิดเผยว่ายอดขายในช่วงเวลา 9 เดือนปรับตัวสูงขึ้น 4.5% ซึ่งน้อยกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะเพิ่ม 4.7%

หุ้นไชร์ ร่วงลง 7.3% หลังจากบริษัท AbbVie Inc. ซึ่งเป็นบริษัทเวชภัณฑ์สหรัฐ เปิดเผยว่าบริษัทอยู่ระหว่างพิจารณาทบทวนแผนการซื้อกิจการมูลค่ากว่า 5 หมื่นล้านดอลลาร์ของไชร์ หลังจากที่รัฐบาลสหรัฐได้ออกกฎระเบียบใหม่เมื่อเร็วๆนี้เพื่อสกัดการเลี่ยงภาษีของบริษัทเอกชน


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ