ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6,310.29 จุด เพิ่มขึ้น 114.38 จุด หรือ +1.85% ซึ่งเป็นการเพิ่มขึ้นมากที่สุดในรอบกว่า 1 ปี
ตลาดหุ้นลอนดอนปรับตัวสูงขึ้นสอดคล้องกับตลาดในภูมิภาค จากกระแสคาดการณ์ว่าธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) จะออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติม ท่ามกลางแนวโน้มเศรษฐกิจยูโรโซนที่ซบเซา โดยสำนักงานสถิติแห่งสหภาพยุโรป หรือยูโรสแตท เปิดเผยว่า เงินเฟ้อของยูโรโซนในเดือนก.ย.ลดลงแตะ 0.3% ในเดือนก.ย. จากระดับ 0.4% ในเดือนส.ค. ขณะที่ผลผลิตภาคอุตสาหกรรมของยูโรโซนปรับตัวลดลง 1.8% ในเดือนส.ค. เทียบกับเดือนก่อนหน้า
ตลาดหุ้นลอนดอนยังได้แรงหนุนจากข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐที่สดใส โดยช่วงค่ำวานนี้ตามเวลาประเทศไทย กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ตัวเลขการเริ่มสร้างบ้านเดือนก.ย.ปรับตัวขึ้น 6.3% มาอยู่ที่ 1.02 ล้านยูนิต ซึ่งมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดไว้ว่าจะเพิ่มขึ้น 4.3%
ขณะที่ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคสหรัฐช่วงต้นเดือนต.ค.จากรอยเตอร์และมหาวิทยาลัยมิชิแกน ปรับตัวสูงขึ้นแตะระดับ 86.4 จากระดับเดือนก.ย.ที่ 84.6 ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 7 ปี
หุ้นโรลส์-รอยซ์ โฮลดิงส์ ร่วง 12% หลังจากที่บริษัทประเมินว่าผลการดำเนินการตลอดทั้งปีนี้อาจปรับตัวลง จากเดิมที่ประเมินว่าทรงตัวจากปีก่อน
หุ้นทราวิส เพอร์กินส์ร่วงลง 1% หลังจากเปิดเผยว่าธุรกิจเดินท่อปะปาและส่งความร้อนของบริษัทจะยังเผชิญความท้าทายจากสภาวะตลาด ณ ปัจจุบันต่อไป