ตลาดหุ้นนิวยอร์กเปิดบวก ขานรับดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคสหรัฐสดใส

ข่าวหุ้น-การเงิน Tuesday October 28, 2014 22:37 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ตลาดหุ้นนิวยอร์กเปิดปรับตัวขึ้นในวันนี้ ขานรับดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนต.ค.ของสหรัฐที่พุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 7 ปี ขณะที่นักลงทุนจับตาดูการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) อย่างใกล้ชิด

ทั้งนี้ หลังจากตลาดเปิดทำการได้ไม่นาน ดัชนีดาวโจนส์ปรับตัวขึ้น 78.54 จุด หรือ 0.47% แตะที่ 16,896.48 จุด ดัชนี S&P 500 เพิ่มขึ้น 9.48 จุด หรือ 0.48% แตะที่ 1,971.11 จุด และดัชนี Nasdaq เพิ่มขึ้น 27.65 จุด หรือ 0.62% แตะที่ 4,513.58 จุด

ตลาดหุ้นนิวยอร์กดีดตัวขึ้นหลังจากคอนเฟอเรนซ์ บอร์ดรายงานในวันนี้ว่า ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคของสหรัฐในเดือนต.ค.ปรับตัวเพิ่มขึ้นแตะระดับ 94.5 จากเดือนก.ย.ที่ระดับ 89.0 โดยดัชนีความเชื่อมั่นเดือนต.ค.เคลื่อนไหวในระดับสูงสุดนับตั้งแต่ช่วงปลายปี 2550 และสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ 87.0 ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่าผู้บริโภคมีความมั่นใจในแนวโน้มเศรษฐกิจและตลาดแรงงานภายในประเทศมากยิ่งขึ้น

อย่างไรก็ตาม ตลาดได้รับแรงกดดันในระดับหนึ่งจากรายงานที่ระบุว่า ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนเดือนก.ย.ของสหรัฐปรับตัวลดลง 1.3% ตรงข้ามกับที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะดีดตัวขึ้น 0.5% สะท้อนให้เห็นว่าภาคเอกชนของสหรัฐลดการลงทุนทางธุรกิจ

หุ้นทวิตเตอร์ร่วงลง 13.18% แม้ว่าบริษัทเปิดเผยรายได้ในไตรมาส 3 อยู่ที่ 361 ล้านดอลลาร์ สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ 351 ล้านดอลลาร์

หุ้นไฟเซอร์ ซึ่งเป็นบริษัทเวชภัณฑ์รายใหญ่ของสหรัฐ เพิ่มขึ้น 0.34% หลังจากบริษัทเปิดเผยยอดขายไตรมาส 3 มูลค่า 1.24 หมื่นล้านดอลลาร์ ซึ่งสูงกว่าการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ ขณะที่กำไรต่อหุ้นอยู่ที่ 57 เซนต์ สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะอยู่ที่ 55 เซนต์ในไตรมาส 3

หุ้นที-โมบาย ปรับตัวขึ้น 2.5% หลังจากบริษัทคาดการณ์ว่าจะมีฐานลูกค้าเพิ่มขึ้นอีก 4.3-4.7 ล้านรายในปีนี้

นักลงทุนจับตาดูการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ซึ่งเริ่มขึ้นในวันนี้และจะสิ้นสุดในวันพรุ่งนี้ โดยมีการคาดการณ์ว่าเฟดอาจจะประกาศยุติโครงการซื้อสินทรัพย์ หรือ QE ในการประชุมครั้งนี้ พร้อมกับจับตาดูว่าเฟดจะส่งสัญญาณเรื่องการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมครั้งนี้หรือไม่

นอกจากนี้ นักลงทุนยังจับตาดูการประมาณการครั้งแรกจีดีพีในช่วงไตรมาส 3/2557 ของสหรัฐในวันพฤหัสบดีนี้ และในวันเดียวกันนั้น กระทรวงแรงงานสหรัฐจะเปิดเผยจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานประจำสัปดาห์


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ