ตลาดหุ้นนิวยอร์กเปิดบวก ตามตลาดหุ้นยุโรป

หลังจากตลาดเปิดทำการได้ไม่นาน ดัชนีดาวโจนส์บวก 11.33 จุด หรือ 0.06% แตะที่ 17,659.08 จุด ดัชนี S&P 500 ดีดขึ้น 3.08 จุด หรือ 0.15% ที่ระดับ 2,044.40 จุด และดัชนี Nasdaq เพิ่มขึ้น 10.67 จุด หรือ 0.23% มาอยู่ที่ 4,681.67 จุด

ในการซื้อขายภาคเช้าวันนี้ ดัชนี S&P 500 สามารถแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในระหว่างวันได้อีกครั้งหนึ่ง โดยแตะที่ 2,048.19 จุด หลังเปิดตลาดได้ประมาณ 25 นาที ตามทิศทางการปรับตัวขึ้นในตลาดหุ้นยุโรป อย่างไรก็ตาม ภาวะการซื้อขายโดยรวมค่อนข้างซบเซาต่อเนื่องมาตั้งแต่ช่วงกลางเดือนต.ค. โดยครั้งหลังสุดที่ดัชนีหุ้นสหรัฐเคลื่อนไหวมากกว่า 1% คือเมื่อวันที่ 31 ต.ค. เมื่อธนาคารกลางญี่ปุ่นสร้างความประหลาดใจด้วยการประกาศใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติม

สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจที่มีการเปิดเผยในวันนี้ กระทรวงแรงงานสหรัฐรายงานว่า ดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) ในเดือนต.ค. ปรับตัวขึ้น 0.2% จากเดือนก่อนหน้า เนื่องจากราคาบริการและอาหารที่ปรับตัวสูงขึ้นได้ถ่วงราคาพลังงานที่ปรับตัวลดลงอย่างต่อเนื่อง

ขณะที่นักเศรษฐศาสตร์ส่วนใหญ่คาดการณ์ว่า ดัชนีราคาผู้ผลิตจะลดลงอีก 0.1% หลังจากที่ลดลง 0.1% ในเดือนก.ย. เนื่องจากการร่วงลงของราคาน้ำมันโลก

อย่างไรก็ตาม เมื่อเทียบรายปี ดัชนี PPI เดือนต.ค. ปรับตัวขึ้น 1.5% ซึ่งเพิ่มขึ้นน้อยที่สุดนับตั้งแต่เดือนก.พ. บ่งชี้ว่าแรงกดดันเงินเฟ้อโดยรวมยังคงไม่รุนแรง

ในส่วนของข่าวคราวความเคลื่อนไหวภาคธุรกิจนั้น โฮม ดีโปต์ อิงค์ ผู้ขายปลีกอุปกรณ์ต่อเติม-ซ่อมแซมบ้านรายใหญ่ที่สุดของโลก รายงานผลกำไรไตรมาสสามดีเกินคาดที่ 1.15% ต่อหุ้น เนื่องจากยอดขายพุ่งขึ้น 5.4% จากปีก่อนสู่ระดับ 2.05 หมื่นล้านดอลลาร์ นอกจากนี้ บริษัทยังได้ยืนยันการคาดการณ์ผลกำไรและยอดขายตลอดทั้งปีนี้