ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์กดาวโจนส์ปิดบวกเพียง 3.66 จุด เหตุวิตกศก.โลกชะลอตัว

ข่าวหุ้น-การเงิน Wednesday January 21, 2015 06:32 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดขยับขึ้นเล็กน้อยเมื่อคืนนี้ (20 ม.ค.) เนื่องจากนักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับแนวโน้มเศรษฐกิจโลก หลังจากกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) ได้ปรับลดคาดการณ์การขยายตัวของเศรษฐกิจทั่วโลกทั้งในปีนี้และปีหน้า และจีนเปิดเผยว่าผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ในปี 2557 ขยายตัวในอัตราที่ต่ำสุดในรอบ 24 ปี

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 17,515.23 จุด เพิ่มขึ้น 3.66 จุด หรือ +0.02% ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 4,654.85 จุด เพิ่มขึ้น 20.47 จุด หรือ +0.44% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,022.55 จุด เพิ่มขึ้น 3.13 จุด หรือ +0.15%

ภาวะการซื้อขายในตลาดหุ้นนิวยอร์กเป็นไปอย่างซบเซา หลังจากไอเอ็มเอฟได้ปรับลดตัวเลขคาดการณ์การขยายตัวของเศรษฐกิจโลกในปีนี้ สู่ระดับ 3.5% ซึ่งลดลง 0.3% จากการคาดการณ์ก่อนหน้านี้ และได้ปรับลดคาดการณ์การขยายตัวของเศรษฐกิจโลกในปีหน้าลงสู่ระดับ 3.7% ในปีหน้า เนื่องจากหลายปัจจัย ซึ่งรวมถึงการลงทุนที่ชะลอตัวลง

นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงกดดันหลังจากสำนักงานสถิติแห่งชาติจีน (NBS) เปิดเผยว่าผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ในปี 2557 ขยายตัว 7.4% ซึ่งเป็นอัตราการขยายตัวที่ต่ำสุดในรอบ 24 ปี

อย่างไรก็ตาม ไอเอ็มเอฟได้ปรับเพิ่มคาดการณ์เศรษฐกิจสหรัฐขึ้นสู่ระดับ 3.6% ในปี 2558 ซึ่งเพิ่มขึ้น 0.5% จากการคาดการณ์ก่อนหน้านี้ และคาดว่าเศรษฐกิจสหรัฐปี 2559 จะขยายตัว 3.3% ซึ่งเพิ่มขึ้นจากเดิม 0.3%

หุ้นมอร์แกน สแตนลีย์ ปรับตัวลง 0.4% หลังจากบริษัทเปิดเผยกำไร 1.04 พันล้านดอลลาร์ในไตรมาส 4 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้านี้ที่ 84 ล้านดอลลาร์ แต่เมื่อหักรายการพิเศษ และการปรับค่าทางบัญชี พบว่า กำไรลดลงสู่ 39 เซนต์ต่อหุ้น จาก 50 เซนต์ในปีก่อนหน้านี้ ขณะที่นักวิเคราะห์คาดการณ์กำไรที่ระดับ 48 เซนต์

หุ้นจอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน ร่วงลง 2.64% หลังจากบริษัทเปิดเผยผลประกอบการที่น้อยกว่าการคาดการณ์

นักลงทุนจับตาดูการประชุมของธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) ในวันพรุ่งนี้ ขณะที่ผลการสำรวจพบว่า นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่า นายมาริโอ ดรากี ประธานอีซีบี จะประกาศใช้มาตรการ QE ด้วยการดำเนินโครงการซื้อพันธบัตรในวงเงิน 5.50 แสนล้านยูโร (6.35 แสนล้านดอลลาร์) ในการประชุมอีซีบีวันพฤหัสบดีนี้ ซึ่งเป็นวงเงินที่สูงเป็นประวัติการณ์เพื่อผลักดันให้ยูโรโซนหลุดพ้นจากภาวะเงินฝืด

นอกจากนี้ นักลงทุนยังจับตาข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐในสัปดาห์นี้ รวมถึงตัวเลขการเริ่มสร้างบ้าน-การอนุญาตก่อสร้างเดือนธ.ค., จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกรายสัปดาห์, ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตเบื้องต้นเดือนม.ค., ยอดขายบ้านมือสองเดือนธ.ค. และดัชนีชี้นำเศรษฐกิจเดือนธ.ค.จาก Conference Board


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ