ดัชนี Stoxx Europe 600 ปรับตัวขึ้น 0.6% ปิดที่ 372.39 จุด
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 4,675.13 จุด เพิ่มขึ้น 34.44 จุด หรือ +0.74% ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 10,798.33 จุด พุ่งขึ้น 148.75 จุด หรือ +1.40% ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6,852.40 จุด เพิ่มขึ้น 19.57 จุด หรือ +0.29%
ตลาดหุ้นยุโรปยังคงปิดในแดนบวก เนื่องจากนักลงทุนยังคงขานรับข่าว ECB ประกาศใช้มาตรการ QE ครั้งใหญ่ในการประชุมครั้งล่าสุด ด้วยการซื้อพันธบัตรจำนวน 6 หมื่นล้านยูโรต่อเดือน จนถึงเดือนก.ย.ปีหน้า โดยเริ่มต้นในเดือนมี.ค. ซึ่งจำนวนเงินดังกล่าวมีมูลค่าสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ก่อนหน้านี้ว่า ECB จะใช้วงเงิน 5 หมื่นล้านยูโรต่อเดือน ทั้งนี้ การที่นักลงทุนมีมุมมองที่เป็นบวกเกี่ยวกับการใช้มาตรการ QE ของ ECB นั้น สามารถชดเชยปัจจัยลบที่เป็นผลมาจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์ของกรีซ หลังจากพรรคไซรีซาของกรีซ ซึ่งคัดค้านมาตรการรัดเข็มขัด ได้รับชัยชนะในการเลือกตั้งเมื่อวานนี้
นายอเล็กซิส ซิปราส หัวหน้าพรรคไซรีซาของกรีซ ได้ปฏิญาณตนเป็นนายกรัฐมนตรีคนใหม่ของกรีซแล้วเมื่อวานนี้ พร้อมกับแถลงว่า เขาจะเปิดฉากการเจรจาครั้งใหม่เกี่ยวกับเงื่อนไขการชำระหนี้ของกรีซต่อกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) และสหภาพยุโรป (อียู) โดยหวังให้มีการลดหนี้ และยุติมาตรการรัดเข็มขัด
หุ้นกลุ่มสายการบินดีดตัวขึ้น โดยหุ้นอินเตอร์เนชันแนล คอนโซลิเดทเต็ด แอร์ไลน์ส พุ่งขึ้น 2.4% หุ้นแอร์ฟรานซ์-เคแอลเอ็ม ปรับขึ้น 5.5% และหุ้นดอยช์ ลุฟฮันซา ทะยานขึ้น 3%
หุ้นกลุ่มพลังงานและกลุ่มรถยนต์ปรับตัวขึ้นเช่นกัน โดยหุ้นรอยัล ดัทช์ เชลล์ ดีดขึ้น 1.5% หุ้นบีจี กรุ๊ป พุ่งขึ้น 2.9% หุ้นเฟียต ไครส์เลอร์ ออโตโมบิลส์ พุ่งขึ้น 3.7% และหุ้น BMW ทะยานขึ้น 2.4%