ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์กดาวโจนส์ปิดพุ่ง 305.36 จุด รับข่าวเจรจาหนี้กรีซ

ข่าวหุ้น-การเงิน Wednesday February 4, 2015 06:32 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นเมื่อคืนนี้ (3 ก.พ.) ขานรับความคืบหน้าในการเจรจาหนี้ของรัฐบาลกรีซชุดใหม่ ซึ่งข่าวดังกล่าวช่วยให้ตลาดคลายความวิตกกังวลเกี่ยวกับแนวโน้มเศรษฐกิจยูโรโซน นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงหนุนจากการพุ่งขึ้นของราคาน้ำมันดิบ

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 17,666.40 จุด พุ่งขึ้น 305.36 จุด หรือ +1.76% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,050.03 จุด เพิ่มขึ้น 29.18 จุด หรือ +1.44% ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 4,727.74 จุด เพิ่มขึ้น 51.05 จุด หรือ +1.09%

ตลาดหุ้นนิวยอร์กทะยานขึ้นขานรับข่าวที่ว่า รัฐบาลชุดใหม่ของกรีซมีท่าทีอ่อนลงต่อการเจรจาเพื่อแก้ไขปัญหาหนี้ โดยจะไม่ขอลดมูลค่าหนี้ โดยกรีซยื่นข้อเสนอปรับโครงสร้างหนี้ครั้งใหม่

นายยานิส วารูเฟกิส รมว.คลังกรีซ กล่าวว่า กรีซจะไม่ขอให้เจ้าหนี้ลดมูลค่าหนี้ลง ขณะที่กรีซจะยื่นข้อเสนอสว็อปพันธบัตรกับฝ่ายเจ้าหนี้ โดยจะแลกเปลี่ยนพันธบัตรของรัฐบาลกรีซที่ธนาคารกลางยุโรป (ECB) และรัฐบาลประเทศอื่นๆถือครองอยู่นั้น ให้เป็นพันธบัตรที่มีผลตอบแทนอิงกับการขยายตัวทางเศรษฐกิจ และพันธบัตรประเภท Perpetual bonds ซึ่งจะจ่ายดอกเบี้ยเมื่อมีผลกำไร และไม่มีการสะสมดอกเบี้ยจ่าย

นอกจากนี้ ตลาดหุ้นนิวยอร์กยังได้รับแรงหนุนจากหุ้นกลุ่มพลังงานที่พุ่งขึ้น 2.78% โดยหุ้นเอ็กซอนโมบิล และหุ้นเชฟรอน ต่างก็ปรับตัวขึ้นอย่างน้อย 3% หลังจากราคาน้ำมันดิบ WTI พุ่งขึ้นแข็งแกร่งถึง 7% อันเนื่องมาจากรายงานที่ว่า บริษัทพลังงานหลายแห่งวานแผนที่จะปรับลดการลงทุนในปีนี้

หุ้นเลนดิง คลับ ทะยานขึ้น 5.35% หลังจากบริษัทประกาศเป็นพันธมิตรทางธุรกิจกับอาลีบาบา เพื่อจัดหาเงินกู้ให้กับธุรกิจขนาดเล็กในสหรัฐ เพื่อให้ธุรกิจเหล่านี้สามารถซื้อสินค้าจากซัพพลายเออร์ของจีนได้อย่างคล่องตัว ทั้งนี้ ข่าวดังกล่าวช่วยหนุนหุ้นอาลีบาบา ดีดตัวขึ้น 0.53%

หุ้นเจนเนอรัล มอเตอร์ส (GM) ปรับตัวขึ้น 2.63% หลังจากบริษัทเปิดเผยยอดขายรถยนต์เพิ่มขึ้น 18% ในเดือนม.ค. สู่ระดับ 202,786 คัน ซึ่งเป็นยอดขายที่แข็งแกร่งที่สุดในรอบ 7 ปี

หุ้นยูไนเต็ด พาร์เซล เซอร์วิส (UPS) ซึ่งเป็นผู้ให้บริการขนส่งบรรจุภัณฑ์รายใหญ่ของสหรัฐ ขยับขึ้น 0.44% หลังจากบริษัทเปิดเผยกำไรต่อหุ้นในไตรมาส 4/2557 อยู่ที่ 1.25 ดอลลาร์ ซึ่งทรงตัวจากไตรมาส 4/2556

ส่วนข้อมูลเศรษฐกิจของสหรัฐที่มีการเปิดเผยล่าสุดนั้น กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ยอดสั่งซื้อภาคโรงงานของสหรัฐลดลงเป็นเดือนที่ 5 ติดต่อกันในเดือนธ.ค. โดยลดลง 3.4% ขณะที่อุปสงค์ร่วงลงในวงกว้างในภาคอุตสาหกรรม หลังจากที่ลดลง 1.7% ในเดือนพ.ย. นักลงทุนจับตาดูข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐในสัปดาห์นี้ รวมถึงตัวเลขจ้างงานเดือนม.ค.จาก ADP, ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคบริการเดือนม.ค., ดัชนีภาคบริการเดือนม.ค.จากสถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (ISM), ข้อมูลการค้าระหว่างประเทศเดือนธ.ค., จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกรายสัปดาห์, ประสิทธิภาพการผลิต-ต้นทุนแรงงานต่อหน่วยเบื้องต้นในไตรมาส 4/2557 และตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนม.ค.


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ