(REPEAT) ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์ก: ดาวโจนส์ปิดลบ 81.72 จุด หลังGDPสหรัฐลดลงจากประมาณการเบื้องต้น

ข่าวหุ้น-การเงิน Monday March 2, 2015 06:07 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดลดลงเมื่อวันศุกร์ (27 ก.พ.) หลังจากที่กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเผยข้อมูลจีดีพีไตรมาส 4 ที่ลดลงจากรายงานเบื้องต้น

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ลดลง 81.72 จุด หรือ 0.45% ปิดที่ 18,132.70 ดัชนี S&P 500 ลดลง 6.24 จุด หรือ 0.3% ปิดที่ 2,104.50 จุด และดัชนี Nasdaq ลบ 24.36 จุด หรือ 0.5% ปิดที่ 4,963.53 จุด

อย่างไรก็ดี ตลอดทั้งเดือนก.พ. ดัชนีหุ้นสหรัฐปรับตัวเพิ่มขึ้น โดยดาวโจนส์ปรับตัวขึ้น 5.6% ซึ่งมากที่สุดในรอบ 2 ปี ดัชนี S&P 500 พุ่งขึ้น 5.5% ดีที่สุดนับตั้งแต่เดือนต.ค.2554 พร้อมทำนิวไฮได้ถึง 4 ครั้งในเดือนนี้ และ Nasdaq ทะยาน 7.1% ในเดือนก.พ.

โดยในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมา ตลาดหุ้นสหรัฐปรับตัวขึ้นหลังจากที่นางเจเน็ต เยลเลน ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ส่งสัญญาณว่าเฟดจะยังไม่รีบขึ้นอัตราดอกเบี้ย โดยนางเยลเลนได้กล่าวในระหว่างการเข้าแถลงต่อคณะกรรมาธิการการธนาคารประจำวุฒิสภา และคณะกรรมาธิการบริการการเงินประจำสภาผู้แทนราษฎร ว่าคณะกรรมการเฟดมองว่าขณะนี้ยังไม่มีแนวโน้มที่ภาวะเศรษฐกิจจะหนุนการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟด อย่างน้อยในช่วงการประชุม 2 ครั้งข้างหน้า และเฟดจะพิจารณาปัจจัยที่หลากหลายทางเศรษฐกิจเพื่อประกอบการตัดสินใจเกี่ยวกับนโยบายอัตราดอกเบี้ย ซึ่งในขณะนี้เงินเฟ้อและการขยายตัวของค่าแรงยังต่ำเกินไปสำหรับการที่ธนาคารจะตัดสินใจขึ้นดอกเบี้ย

สำหรับในวันศุกร์ กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยตัวเลขประมาณการครั้งที่ 2 สำหรับผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ช่วงไตรมาส 4 ของปีที่แล้ว โดยระบุว่ามีการขยายตัว 2.2% ซึ่งต่ำกว่าตัวเลขเบื้องต้นที่ 2.6%

ขณะที่ผลสำรวจของรอยเตอร์/มหาวิทยาลัยมิชิแกนระบุว่า ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคสหรัฐขั้นสุดท้ายของเดือนก.พ.ขยับขึ้นสู่ระดับ 95.4 จากตัวเลขเบื้องต้นที่ 93.6 แต่ต่ำกว่าระดับ 98.1 ของเดือนม.ค.

ดัชนีความเชื่อมั่นในเดือนม.ค.อยู่ในระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนม.ค.2004 โดยได้แรงหนุนจากแนวโน้มการจ้างงานและค่าแรงที่ดีขึ้น

ก่อนหน้านี้ นักวิเคราะห์คาดว่าดัชนีอยู่ที่ระดับ 94.0 ในเดือนก.พ.

ด้านสมาคมนายหน้าอสังหาริมทรัพย์แห่งชาติของสหรัฐ (NAR) เปิดเผยว่า ดัชนีการทำสัญญาขายบ้านที่รอปิดการขาย (pending home sales) ปรับตัวขึ้น 1.7% แตะระดับ 104.2 ในเดือนม.ค.เมื่อเทียบรายเดือน ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 1 ปีครึ่ง นับเป็นอีกหนึ่งสัญญาณซึ่งแสดงถึงการฟื้นตัวของตลาดที่อยู่อาศัยสหรัฐ

เมื่อเทียบรายปี ดัชนีพุ่งขึ้น 8.4% ในเดือนม.ค. โดยค่าดัชนีที่สูงกว่า 100 บ่งชี้ถึงการขยายตัว

นักวิเคราะห์คาดการณ์ก่อนหน้านี้ว่าดัชนีจะเพิ่มขึ้น 2% ในเดือนม.ค.


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ