ณ เวลา 21.08 น.ตามเวลาไทย ดัชนี DJIA ตลาดหุ้นนิวยอร์กอยู่ที่ 18,013.68 จุด ลดลง 24.19 จุด หรือ 0.14%
มาร์กิต ซึ่งเป็นบริษัทสำรวจข้อมูลทางการเงิน เปิดเผยว่า ภาคการผลิตของสหรัฐมีการขยายตัวต่ำกว่าคาดในเดือนเม.ย. โดยกิจกรรมภาคโรงงานชะลอตัวมากที่สุดนับตั้งแต่เดือนม.ค.
มาร์กิตระบุว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตเบื้องต้นของสหรัฐร่วงลงสู่ระดับ 54.2 ในเดือนเม.ย. จากระดับ 55.7 ในเดือนมี.ค. ขณะที่นักวิเคราะห์คาดว่าอยู่ที่ระดับ 55.5
นอกจากนี้ ดัชนีผลผลิตเบื้องต้นร่วงลงในเดือนเม.ย. สู่ระดับ 55.4 โดยเป็นระดับต่ำที่สุดนับตั้งแต่เดือนม.ค. จากระดับ 58.8 ในเดือนมี.ค.
ส่วนดัชนีคำสั่งซื้อใหม่ลดลงสู่ 55.4 จาก 57.2 ในเดือนมี.ค.
กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกในรอบสัปดาห์ซึ่งสิ้นสุดวันที่ 18 เม.ย. เพิ่มขึ้น 1,000 ราย สู่ระดับ 295,000 ราย สูง กว่าที่นักวิเคราะห์คาดไว้ที่ระดับ 290,000 ราย
ส่วนจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกโดยเฉลี่ย 4 สัปดาห์ ซึ่งสามารถวัดแนวโน้มตลาดแรงงานได้ดีกว่าเพราะมีความผันผวนน้อยกว่าตัวเลขรายสัปดาห์นั้น เพิ่มขึ้น 1,750 ราย แตะระดับ 284,500 ราย
สำหรับจำนวนชาวอเมริกันที่ยังคงขอรับสวัสดิการว่างงานต่อเนื่อง เพิ่มขึ้น 50,000 ราย สู่ระดับ 2.33 ล้านราย ในรอบสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 11 เม.ย.
ทางด้านบริษัทเจเนอรัล มอเตอร์ (GM) รายงานผลกำไรต่ำกว่าคาดในไตรมาสแรก โดยได้รับผลกระทบจากเศรษฐกิจที่ซบเซาในรัสเซียและอเมริกาใต้
ทั้งนี้ GM เปิดเผยว่า ทางบริษัทมีกำไรสุทธิ 945 ล้านดอลลาร์ หรือ 56 เซนต์ต่อหุ้นในไตรมาสแรก จากระดับ 125 ล้านดอลลาร์ หรือ 6 เซนต์ต่อหุ้นในช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว
อย่างไรก็ดี เมื่อหักรายการพิเศษเกี่ยวกับการยุติการผลิตรถยนต์ในรัสเซีย และการจ่ายชดเชยเกี่ยวกับสวิทช์ของรถยนต์ที่มีความบกพร่อง GM มีกำไรต่อหุ้นที่ระดับ 86 เซนต์ เทียบกับที่นักวิเคราะห์คาดไว้ที่ 97 เซนต์
นอกจากนี้ รายได้ของบริษัทลดลง 4.5% สู่ระดับ 3.57 หมื่นล้านดอลลาร์ ต่ำกว่าระดับ 3.76 หมื่นล้านดอลลาร์ที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้