ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์กดาวโจนส์ปิดลบ 26.99 จุด หลังเฟดส่งสัญญาณยังไม่ขึ้นดบ.

ข่าวหุ้น-การเงิน Thursday May 21, 2015 06:28 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (20 พ.ค.) หลังจากรายงานการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ระบุว่า ข้อมูลเศรษฐกิจที่จะมีการเปิดเผยในเดือนมิ.ย.นั้น อาจจะไม่แข็งแกร่งเพียงพอที่จะทำให้เฟดปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนดังกล่าว

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 18,285.40 จุด ลดลง 26.99 จุด หรือ -0.15% ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 5,071.74 จุด เพิ่มขึ้น 1.71 จุด หรือ +0.03% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,125.85 จุด ลดลง 1.98 จุด หรือ -0.09%

ภาวะการซื้อขายในตลาดหุ้นนิวยอร์กเป็นไปอย่างผันผวน หลังจากรายงานการประชุมประจำเดือนเม.ย.ของเฟดระบุว่า "กรรมการเฟดหลายคนที่เข้าร่วมประชุมในเดือนเม.ย.เล็งเห็นว่า ข้อมูลเศรษฐกิจที่จะมีการเผยแพร่ในเดือนมิ.ย.นั้น อาจจะไม่แข็งแกร่งเพียงพอที่จะทำให้เฟดปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนดังกล่าว"

รายงานการประชุมของเฟดออกมาค่อนข้างสอดคล้องกับความคิดเห็นของนายชาร์ลส์ อีแวนส์ ประธานเฟดสาขาชิคาโกที่กล่าวเมื่อวานนี้ว่า ขณะนี้ยังไม่เหมาะสมที่จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย จนกว่าจะถึงต้นปีหน้า

นอกจากนี้ นายอีแวนส์กล่าวว่า เฟดยังไม่ควรดำเนินการด้านดอกเบี้ย จนกว่าจะมีความเชื่อมั่นมากขึ้นว่าจะมีการบรรลุเป้าหมายเงินเฟ้อของเฟดที่ระดับ 2% ภายในเวลา 1-2 ปี

นักลงทุนจับตาดูถ้อยแถลงของนางเจเน็ต เยลเลน ประธานเฟดซึ่งจะมีขึ้นในวันศุกร์นี้ เพื่อดูว่าประธานเฟดจะส่งสัญญาณเรื่องระยะเวลาในการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยหรือไม่

ขณะเดียวกัน ตลาดจับตาความคืบหน้าในการเจรจาหนี้กรีซ ขณะใกล้กำหนดชำระหนี้ 1.5 พันล้านยูโรแก่กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) ในเดือนหน้า นอกจากนี้ กรีซกำลังอยู่ในระหว่างการเจรจากับสหภาพยุโรป (EU) และ IMF เพื่อหาทางบรรลุข้อตกลงก่อนที่จะขาดแคลนสภาพคล่อง

หุ้นกลุ่มสายการบินปรับตัวลง นำโดยหุ้นเซาท์เวสต์ แอร์ไลน์ส ร่วงลง 9.1% หลังจากบริษัทคาดการณ์ว่าผลประกอบการจะลดลง 3% ในไตรมาส 2 และคาดว่าต้นทุนเชื้อเพลิงในช่วงเวลาดังกล่าวจะปรับตัวสูงขึ้นด้วย ส่วนหุ้นเจ็ทบลู แอร์เวย์ส ร่วงลง 6.9% และหุ้นอเมริกัน แอร์ไลน์ ดิ่งลง 10%

อย่างไรก็ตาม หุ้นยาฮู ดีดตัวขึ้น 4.4% ส่วนหุ้นทาร์เก็ต คอร์ป ปรับขึ้น 0.33% หลังจากบริษัทเปิดเผยรายได้ต่อหุ้นในไตรมาสแรกปีนี้อยู่ที่ 1.10 ดอลลาร์ เพิ่มขึ้นจากไตรมาสแรกปีที่แล้วที่ระดับ 92 เซนต์

นักลงทุนจับตาดูข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐในสัปดาห์นี้ โดยวันนี้ สหรัฐจะเปิดเผยจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกรายสัปดาห์, ดัชนีกิจกรรมการผลิตทั่วประเทศเดือนเม.ย.จากเฟดชิคาโก, ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตเบื้องต้นเดือนพ.ค., ยอดขายบ้านมือสองเดือนเม.ย., ดัชนีชี้นำเศรษฐกิจเดือนเม.ย.จาก Conference Board และผลสำรวจแนวโน้มธุรกิจเดือนพ.ค.เฟดฟิลาเดลเฟีย

ส่วนวันศุกร์ จะมีการเปิดเผย ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เดือนเม.ย.


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ