ณ เวลา 23.30 น.ตามเวลาไทย ดัชนีดาวโจนส์พุ่งขึ้น 316.81 จุด หรือ 1.95% สู่ระดับ 16,602.32 จุด โดยปรับตัวขึ้นเป็นวันที่ 2
หุ้นทั้ง 30 ตัวที่ใช้คำนวณดัชนี DJIA ต่างปรับตัวขึ้นในวันนี้
นักวิเคราะห์ระบุว่า แม้มีการเปิดเผยตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐที่แข็งแกร่ง แต่ก็ไม่มีแนวโน้มที่จะทำให้ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนหน้า หลังเจ้าหน้าที่เฟดต่างออกมาส่งสัญญาณบ่งชี้ว่าเฟดยังไม่รีบปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย ท่ามกลางภาวะผันผวนในตลาดการเงินทั่วโลก
นายวิลเลียม ดัดลีย์ ประธานเฟด สาขานิวยอร์ก กล่าวว่า ยังไม่เหมาะสมที่จะมีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนหน้า เนื่องจากเศรษฐกิจสหรัฐยังคงเผชิญความเสี่ยงจากภาวะปั่นป่วนในตลาดโลกระยะนี้
นายดัดลีย์ระบุว่า แนวโน้มการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนก.ย.มีความเป็นไปได้น้อยลงกว่าเมื่อหลายสัปดาห์ก่อน
คำกล่าวของนายดัดลีย์เป็นสิ่งบ่งชี้ว่าความวิตกเกี่ยวกับภาวะชะลอตัวทางเศรษฐกิจของจีนอาจส่งผลกระทบต่อนโยบายการเงินของสหรัฐ
ด้านนางเอสเธอร์ จอร์จ ประธานเฟด สาขาแคนซัส ซิตี้ กล่าวว่า ภาวะผันผวนในตลาดหุ้นในช่วงที่ผ่านมา จะสร้างความซับซ้อนให้กับการตัดสินใจของเฟดในการประชุมเดือนหน้า
กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) สำหรับช่วงไตรมาส 2 ของปีนี้ ขยายตัว 3.7% โดยสูงกว่าตัวเลขเบื้องต้นที่ประเมินไว้ก่อนหน้านี้ที่ระดับ 2.3%
การปรับตัวดีขึ้นดังกล่าวเกิดจากการที่ภาคธุรกิจเพิ่มการลงทุน และเพิ่มสต็อกสินค้า รวมทั้งการใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้นของผู้บริโภคและของรัฐบาล
นักวิเคราะห์คาดการณ์ก่อนหน้านี้ว่า จีดีพีจะมีการขยายตัว 3.3% ในไตรมาส 2
สัญญาน้ำมันดิบล่วงหน้า WTI พุ่งขึ้นกว่า 8% ในวันนี้ ขานรับการขยายตัวทางเศรษฐกิจที่มากกว่าคาดของสหรัฐ
ณ เวลา 23.30 น.ตามเวลาไทย สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ส่งมอบเดือนต.ค. ซึ่งมีการซื้อขายทางระบบอิเล็กทรอนิกส์ที่ตลาด NYMEX พุ่งขึ้น 3.37 ดอลลาร์ หรือ 8.73% สู่ระดับ 41.97 ดอลลาร์/บาร์เรล