ณ เวลา 18.45 น.ตามเวลาไทย ดัชนีดาวโจนส์ล่วงหน้าบวก 185 จุด หรือ 1.15% สู่ระดับ 16,134 จุด
ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวก 0.30% เมื่อคืนนี้ (29 ก.ย.) ขานรับข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งของสหรัฐ รวมถึงดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคที่ปรับตัวขึ้นสูงกว่าการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ อย่างไรก็ตาม ดาวโจนส์ลดแรงบวกในระหว่างวัน เพราะตลาดได้รับแรงกดดันจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับแนวโน้มเศรษฐกิจทั่วโลก หลังจากกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) ออกรายงานเตือนว่า เศรษฐกิจของประเทศที่ต้องพึ่งพาการส่งออกสินค้าโภคภัณฑ์อาจชะลอตัวลง อันเนื่องมาจากราคาสินค้าโภคภัณฑ์ที่ปรับตัวลง
นักลงทุนจับตาข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐในสัปดาห์นี้ รวมถึงตัวเลขจ้างงานภาคเอกชนจาก ADP ซึ่งจะมีการเปิดเผยในวันนี้ ส่วนวันพฤหัสบดีจะเปิดเผยจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกรายสัปดาห์ และดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตเดือนก.ย. สำหรับวันศุกร์ สหรัฐจะเปิดเผยข้อมูลจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนก.ย. และยอดสั่งซื้อภาคโรงงานเดือนส.ค.
ในการกล่าวสุนทรพจน์ก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 24 ก.ย. นางเยลเลนบ่งชี้ว่าเฟดจะเริ่มปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยจากระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ภายในสิ้นปีนี้
นางเยลเลนแสดงความคิดเห็นดังกล่าวที่เมืองแอมเฮิร์สท์ รัฐแมสซาชูเซตส์ ซึ่งมีการบรรยายในหัวข้อ "พลวัตเงินเฟ้อและนโยบายการเงิน" หรือ " Inflation Dynamics and Monetary Policy"
ประธานเฟดระบุว่ามีความเหมาะสมในการเริ่มปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปีนี้ โดยคาดว่าอัตราเงินเฟ้อจะกลับมาสู่เป้าหมายที่ 2% ในช่วงไม่กี่ปีข้างหน้า เมื่อปัจจัยชั่วคราวที่กดดันเงินเฟ้อได้จางหายไป พร้อมกล่าวว่าภาวะอ่อนแอของเศรษฐกิจทั่วโลกไม่มีแนวโน้มที่จะมีนัยสำคัญมากพอที่จะส่งผลกระทบต่อนโยบายการเงินของเฟด