ณ เวลา 23.40 น.ตามเวลาไทย ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์อยู่ที่ 16,238.66 จุด ร่วงลง 177.78 จุด หรือ 1.09%
นักลงทุนเพิ่มการคาดการณ์เกี่ยวกับการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟดในปีนี้ หลังอัตราการว่างงานในสหรัฐต่ำที่สุดในรอบเกือบ 8 ปี และค่าจ้างปรับตัวขึ้น
ราคาสัญญาล่วงหน้าอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นของสหรัฐร่วงลง หลังการเปิดเผยรายงานการจ้างงานของสหรัฐในวันนี้ ซึ่งบ่งชี้ว่านักลงทุนได้คาดการณ์โอกาส 50% ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนธ.ค.ปีนี้ สูงขึ้นจากเดิมที่ระดับ 20% ก่อนการเปิดเผยรายงาน
ขณะเดียวกัน นักลงทุนมองว่ามีโอกาสเพียง 12% ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนมี.ค.
ก่อนหน้านี้ ตลาดคาดการณ์ว่าเฟดจะไม่ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปีนี้ โดยจะปรับขึ้นในปีหน้า เนื่องจากเฟดมีความกังวลเกี่ยวกับแรงเทขายในตลาดหุ้นที่เกิดจากการชะลอตัวของเศรษฐกิจจีนที่อาจส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจสหรัฐ
กระทรวงแรงงานสหรัฐรายงานว่า ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรเพิ่มขึ้น 151,000 ตำแหน่งในเดือนม.ค. จากระดับ 262,000 ตำแหน่งในเดือนธ.ค. ขณะที่อัตราการว่างงานลดลงสู่ระดับ 4.9% ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบเกือบ 8 ปี หรือนับตั้งแต่เดือนเม.ย.2008 ขณะที่ค่าเฉลี่ยรายได้ต่อชั่วโมงเพิ่มขึ้น 0.5%
นักวิเคราะห์คาดการณ์ก่อนหน้านี้ว่า การจ้างงานจะเพิ่มขึ้น 200,000 ตำแหน่งในเดือนม.ค. และอัตราการว่างงานจะทรงตัวที่ระดับ 5.0%
ภาคเอกชนมีการจ้างงานเพิ่มขึ้น 158,000 ตำแหน่ง ขณะที่ภาครัฐจ้างงานลดลง 7,000 ตำแหน่ง
นอกจากนี้ กระทรวงแรงงานสหรัฐยังได้ทบทวนตัวเลขการจ้างงานในเดือนธ.ค. โดยปรับลดลงสู่ระดับ 262,000 ตำแหน่ง จากที่มีการรายงานก่อนหน้านี้ที่ 292,000 ตำแหน่ง และทบทวนตัวเลขการจ้างงานในเดือนพ.ย. โดยปรับเพิ่มขึ้นสู่ 280,000 ตำแหน่ง จากที่มีการรายงานก่อนหน้านี้ที่ 252,000 ตำแหน่ง