ตลาดหุ้นยุโรปปิดลบเมื่อคืนนี้ (21 เม.ย.) หลังจากนายมาริโอ ดรากี ประธานธนาคารกลางยุโรป (ECB) ไม่ได้ส่งสัญญาณที่ชัดเจนเกี่ยวกับการใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติม ภายหลังจากที่คณะกรรมการ ECB มีมติคงอัตราดอกเบี้ยนโยบาย และคงวงเงิน QE ในการประชุมเมื่อวานนี้
ดัชนี Stoxx Europe 600 ปรับตัวลง 0.3% ปิดที่ 349.59 จุด
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 4,582.83 จุด ลดลง 9.09 จุด, -0.20% ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 10,435.73 จุด เพิ่มขึ้น 14.44 จุด หรือ +0.14% ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6,381.44 จุด ลดลง 28.82 จุด หรือ -0.45%
ภาวะการซื้อขายในตลาดยุโรปเป็นไปอย่างซบเซา เนื่องจากนักลงทุนผิดหวังที่นายดรากี ประธาน ECB ไม่ได้ส่งสัญญาณที่ชัดเจนเกี่ยวกับการใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติม โดยนายดรากีกล่าวเพียงว่า เขาจะใช้เครื่องมือทางการเงินทั้งหมดนานเท่าที่มีความจำเป็น เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจยูโรโซน พร้อมระบุว่า ECB จะเข้าซื้อตราสารหนี้ของภาคเอกชนตามนโยบายผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) ในเดือนมิ.ย.นี้
สำหรับผลการประชุมเมื่อวานนั้น คณะกรรมการ ECB มีมติคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ระดับ 0% ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ พร้อมกับคงอัตราดอกเบี้ยเงินฝากที่ธนาคารพาณิชย์ฝากไว้กับ ECB ที่ระดับ -0.4% นอกจากนี้ ECB ยังได้คงวงเงินในการซื้อพันธบัตรตามมาตรการ QE ที่ระดับ 8 หมื่นล้านยูโร/เดือน
หุ้นอิริคสัน เอบี ดิ่งลง 15% หลังจากบริษัทเปิดเผยผลประกอบการที่น้อยกว่าคาด
หุ้นโฟล์คสวาเกน พุ่งขึ้น 5.1% หลังจากโฟล์คสวาเกนและกระทรวงยุติธรรมสหรัฐได้บรรลุข้อตกลงในหลักการเพื่อแก้ไขปัญหารถยนต์ดีเซลที่มีการโกงการตรวจจับมลพิษในไอเสียจำนวนเกือบ 6 แสนคัน
ทั้งนี้ ข้อตกลงดังกล่าวระบุว่า โฟล์คสวาเกนจะยื่นข้อเสนอซื้อคืนรถยนต์ 2.0 ลิตรจำนวนเกือบ 5 แสนคันจากลูกค้า รวมทั้งข้อเสนอในการแก้ไขเครื่องยนต์
นอกจากนี้ ทางบริษัทจะจัดตั้งกองทุนฟื้นฟูสิ่งแวดล้อม และจ่ายเงินชดเชยเพิ่มเติมแก่เจ้าของรถยนต์ที่ต้องการขายรถ หรือให้มีการแก้ไขเครื่องยนต์