ดัชนีดาวโจนส์ล่วงหน้าดีดตัวขึ้นในวันนี้ตามราคาน้ำมันที่พุ่งขึ้น และขานรับรัฐมนตรีคลังของยูโรโซนและกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) ที่ได้อนุมัติเงินกู้งวดใหม่ให้แก่กรีซ
ณ เวลา 20.17 น.ตามเวลาไทย ดัชนีดาวโจนส์ล่วงหน้าบวก 61 จุด หรือ 0.34% สู่ระดับ 17,748 จุด
สัญญาน้ำมันดิบล่วงหน้า WTI ดีดตัวขึ้นในวันนี้ใกล้ระดับ 50 ดอลลาร์ ซึ่งเป็นครั้งแรกในรอบ 7 เดือน โดยได้ปัจจัยบวกจากการคาดการณ์สต็อกน้ำมันสหรัฐที่ลดลง ซึ่งจะช่วยปรับสมดุลอุปทานในตลาด หลังเผชิญภาวะน้ำมันล้นตลาดก่อนหน้านี้
ณ เวลา 19.20 น.ตามเวลาไทย สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ส่งมอบเดือนมิ.ย. ซึ่งมีการซื้อขายทางระบบอิเล็กทรอนิกส์ที่ตลาด NYMEX เพิ่มขึ้น 42 เซนต์ หรือ 0.86% สู่ระดับ 49.04 ดอลลาร์/บาร์เรล
สถาบันปิโตรเลียมอเมริกัน (API) รายงานวานนี้ว่า สต็อกน้ำมันดิบสหรัฐลดลง 5.1 ล้านบาร์เรล สู่ระดับ 536.8 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่แล้ว
นักลงทุนจับตาการเปิดเผยสต็อกน้ำมันสหรัฐจากสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) ในคืนนี้ เพื่อยืนยันข้อมูลจาก API
นอกจากนี้ การเกิดไฟป่าในแคนาดา และเหตุรุนแรงในแหล่งผลิตน้ำมันในไนจีเรีย ก็เป็นอีกสาเหตุหนึ่งที่ช่วยหนุนการปรับตัวขึ้นของราคาน้ำมัน
รัฐมนตรีคลังของยูโรโซนและ IMF ได้อนุมัติเงินกู้งวดใหม่ให้แก่กรีซแล้วในการประชุมที่ยืดเยื้อตั้งแต่เมื่อวานนี้ที่กรุงบรัสเซลส์ ประเทศเบลเยี่ยม
เงินกู้งวดใหม่ที่ทางรัฐมนตรีคลังยูโรโซนได้อนุมัตินั้น อยู่ที่ 1.03 หมื่นล้านยูโร หรือ 1.14 หมื่นล้านดอลลาร์ โดยเงินกู้งวดใหม่นี้ จะจัดสรรให้กับกรีซล็อตแรกในวงเงิน 7.5 พันล้านยูโร ในช่วงต้นเดือนมิ.ย.นี้
การประชุมดังกล่าวมีขึ้น 2 วัน หลังจากที่รัฐสภากรีซผ่านมาตรการรัดเข็มขัดรอบใหม่ ซึ่งรวมถึงการขึ้นภาษี และการตั้งกองทุนแปรรูปเป็นภาคเอกชน เพื่อให้สอดคล้องกับข้อเรียกร้องของฝ่ายเจ้าหนี้
ทั้งนี้ กรีซกำลังเผชิญภาวะยากลำบาก ขณะที่กำลังต้องการเงินกู้งวดใหม่เพื่อนำไปชำระหนี้จำนวนหลายพันล้านยูโรต่อธนาคารกลางยุโรป และกองทุนการเงินระหว่างประเทศในเดือนมิ.ย. และก.ค.
ตลาดจับตาคำพูดของเจ้าหน้าที่เฟดหลายรายในวันนี้ รวมทั้งการแถลงของนางเจเน็ต เยลเลน ประธานเฟด ในวันศุกร์นี้ เพื่อหาสัญญาณบ่งชี้การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยสหรัฐ