ดัชนีดาวโจนส์ล่วงหน้าปรับตัวขึ้นในวันนี้ ขณะที่นักลงทุนจับตาข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐ เพื่อหาสัญญาณการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยสหรัฐ
ณ เวลา 20.17 น.ตามเวลาไทย ดัชนีดาวโจนส์ล่วงหน้าบวก 38 จุด หรือ 0.21% สู่ระดับ 17,887 จุด
กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า การใช้จ่ายของผู้บริโภคสหรัฐพุ่งขึ้น 1.0% ในเดือนเม.ย. หลังจากทรงตัวในเดือนมี.ค. โดยได้ปัจจัยบวกจากการที่ภาคครัวเรือนเข้าซื้อรถยนต์ รวมทั้งสินค้าและบริการอื่นๆ
การใช้จ่ายของผู้บริโภคสหรัฐเพิ่มขึ้นในเดือนเม.ย. มากที่สุดนับตั้งแต่เดือนส.ค.2009 และสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะเพิ่มขึ้น 0.7% ส่งผลให้ธนาคารกลางสหรัฐอาจปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนหน้า
เมื่อพิจารณาปรับค่าตามเงินเฟ้อ การใช้จ่ายของผู้บริโภคสหรัฐเพิ่มขึ้น 0.6% ในเดือนเม.ย. ซึ่งเป็นการปรับตัวขึ้นมากที่สุดนับตั้งแต่เดือนก.พ.2014 หลังจากทรงตัวในเดือนมี.ค.
รายได้ส่วนบุคคลของชาวสหรัฐเพิ่มขึ้น 0.4% ในเดือนเม.ย. หลังจากเพิ่มขึ้น 0.4% เช่นกันในเดือนมี.ค.
ส่วนอัตราการออมร่วงลงสู่ระดับ 7.511 แสนล้านดอลลาร์ในเดือนเม.ย. จากระดับ 8.094 แสนล้านดอลลาร์ในเดือนมี.ค.
กระทรวงพาณิชย์สหรัฐยังเปิดเผยว่า ดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) พื้นฐาน ซึ่งไม่นับรวมหมวดอาหารและพลังงาน และเป็นมาตรวัดอัตราเงินเฟ้อของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ปรับตัวขึ้น 0.2% ในเดือนเม.ย. เมื่อเทียบรายเดือน หลังจากขยับขึ้น 0.1% ในเดือนมี.ค.
เมื่อเทียบรายปี ดัชนี PCE พื้นฐานเพิ่มขึ้น 1.6% ในเดือนเม.ย. หลังจากเพิ่มขึ้น 1.6% เช่นกันในเดือนมี.ค.
การขยับขึ้นของดัชนี PCE ยังคงห่างจากเป้าหมายอัตราเงินเฟ้อที่ 2% ของเฟด
นอกจากนี้ นักลงทุนยังจับตาการเปิดเผยตัวเลขการจ้างงานในวันศุกร์นี้