ตลาดหุ้นนิวยอร์กเปิดแดนลบในวันนี้ โดยปรับตัวลงเป็นวันที่ 4 ติดต่อกัน หลังจากที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ประกาศคงอัตราดอกเบี้ยตามคาดในการประชุมเมื่อคืนนี้
ณ เวลา 20.42 น.ตามเวลาไทย ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์อยู่ที่ 18,403.48 จุด ลดลง 69.75 จุด หรือ 0.37%
หุ้นกลุ่มสื่อสารดิ่งลงวันนี้ ขณะที่กลุ่มเทคโนโลยีดีดตัวสวนตลาด
หุ้นฟอร์ดทรุดตัวลงกว่า 8% หลังเผยผลประกอบการที่ซบเซา
บริษัทฟอร์ด มอเตอร์ รายงานตัวเลขกำไรประจำไตรมาส 2 ที่ต่ำกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ในวันนี้ โดยได้รับผลกระทบจากยอดขายในสหรัฐและจีนที่ต่ำกว่าคาด
ทั้งนี้ ฟอร์ดเปิดเผยว่า ทางบริษัทมีกำไรสุทธิ 1.97 พันล้านดอลลาร์ หรือ 49 เซนต์/หุ้น และหากไม่นับรวมรายการพิเศษ ทางบริษัทมีกำไรสุทธิ 52 เซนต์/หุ้น ซึ่งต่ำกว่าตัวเลขคาดการณ์ที่ระดับ 60 เซนต์/หุ้น
บริษัทมีกำไรสุทธิ 2.16 พันล้านดอลลาร์ หรือ 54 เซนต์/หุ้นในช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว
นอกจากนี้ ราคาน้ำมันที่ร่วงลง ก็เป็นอีกปัจจัยที่กดดันตลาดในวันนี้
สัญญาน้ำมันดิบล่วงหน้า WTI อ่อนตัวลงในวันนี้ โดยปรับตัวต่ำกว่าระดับ 42 ดอลลาร์ จากความกังวลเกี่ยวกับภาวะน้ำมันล้นตลาด ขณะที่ผู้ผลิตยังคงเดินหน้าทำการผลิต ท่ามกลางแนวโน้มเศรษฐกิจที่ชะลอตัวลง
ณ เวลา 20.26 น.ตามเวลาไทย สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ส่งมอบเดือนก.ย. ซึ่งมีการซื้อขายทางระบบอิเล็กทรอนิกส์ที่ตลาด NYMEX ขยับลง 6 เซนต์ หรือ 0.14% สู่ระดับ 41.86 ดอลลาร์/บาร์เรล
ราคาน้ำมันได้รับผลกระทบจากภาวะน้ำมันล้นตลาดในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา โดยได้ดิ่งลงถึง 70% ในช่วงปี 2014 ถึงต้นปีนี้
คณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงิน (FOMC) ของเฟดมีมติอย่างไม่เป็นเอกฉันท์ 9-1 ในการประชุมวานนี้ ให้คงอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นอยู่ในช่วง 0.25-0.50% ตามที่ตลาดการเงินคาดการณ์ไว้ ขณะที่เฟดคาดการณ์ว่าจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างค่อยเป็นค่อยไป และระบุย้ำว่าจะยังคงจับตาสิ่งบ่งชี้เงินเฟ้อ รวมทั้งพัฒนาการทางการเงิน และเศรษฐกิจโลกอย่างใกล้ชิดต่อไป
"ความเสี่ยงในระยะใกล้ต่อแนวโน้มเศรษฐกิจได้ลดน้อยลง" แถลงการณ์ของเฟดระบุ ซึ่งเป็นถ้อยคำที่ไม่ได้ปรากฎในแถลงการณ์เดือนที่แล้ว และเป็นการเปิดช่องสำหรับการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปีนี้
อย่างไรก็ดี แถลงการณ์ของเฟดระบุว่า เงินเฟ้อยังคงซบเซา และจะยังคงอยู่ในระดับต่ำในระยะใกล้ แต่จะปรับตัวสู่ระดับเป้าหมายที่ 2% ในระยะกลาง
นักวิเคราะห์บางส่วนมองว่าแถลงการณ์เฟดบ่งชี้การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนก.ย. ขณะที่บางรายมองว่าเฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนธ.ค. เพื่อรอให้ผ่านพ้นการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐในเดือนพ.ย.