ตลาดหุ้นเอเชียปรับตัวลงในการซื้อขายภาคบ่ายวันนี้ เนื่องจากนักลงทุนผิดหวังต่อผลการประชุมของธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) ซึ่งมีมติคงฐานเงินรายปีที่ 80 ล้านล้านเยน และคงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ระดับ -0.1%
ดัชนี SENSEX ตลาดหุ้นอินเดียเปิดวันนี้ที่ 28,232.87 จุด เพิ่มขึ้น 24.25 จุด หรือ +0.09% ก่อนที่จะปรับตัวลงในเวลาต่อมา ขณะที่ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงปิดภาคเช้าที่ 21,991.94 จุด ลดลง 182.40 จุด, -0.82% ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียปิดภาคเช้าที่ 1,656.18 จุด ลดลง 2.32 จุด, -0.14%
นักลงทุนผิดหวังต่อผลการประชุม BOJ แม้ว่าทางธนาคารกลางได้ขยายวงเงินในการซื้อกองทุน ETFS จากสถาบันการเงินต่างๆเป็น 6 ล้านล้านเยน (5.8 หมื่นล้านดอลลาร์) และเพิ่มวงเงินในโครงการปล่อยกู้เพื่อสนับสนุนการดำเนินงานของบริษัทญี่ปุ่นในต่างประเทศ โดยได้ปรับเพิ่มขึ้น 2 เท่า เป็น 2.4 หมื่นล้านดอลลาร์
สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจที่ได้มีการเผยแพร่แล้วในวันนี้ ได้แก่ กระทรวงกิจการภายในและการสื่อสารของญี่ปุ่นเปิดเผยว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ของญี่ปุ่นปรับตัวลดลง 0.5% ในเดือนมิ.ย. เมื่อเทียบเป็นรายปี และลดลงเป็นเดือนที่ 4 ติดต่อกัน โดยข้อมูลดังกล่าวอาจจะกดดันให้ธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) ต้องใช้มาตรการผ่อนคลายทางการเงินเพิ่มเติม เพื่อกระตุ้นอัตราเงินเฟ้อ
อัตราว่างงานของญี่ปุ่นเดือนมิ.ย.ปรับตัวลงแตะระดับ 3.1% ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบเกือบ 21 ปี ชี้ให้เห็นว่าบริษัทต่างๆมีการจ้างแรงงานมากขึ้น ท่ามกลางตลาดแรงงานที่ยังคงตึงตัว
สัดส่วนตำแหน่งงานว่างในช่วง 3 เดือน ปรับตัวขึ้นแตะ 1.37 ในเดือนมิ.ย. ซึ่งถือเป็นระดับที่ดีที่สุดนับตั้งแต่เดือนส.ค. 2534 บ่งชี้ว่า มีตำแหน่งงานว่าง 137 ตำแหน่ง ต่อจำนวนคนหางาน 100 คน
นอกจากนี้ ผลผลิตภาคอุตสาหกรรมของญี่ปุ่นในเดือนมิ.ย.ปรับตัวขึ้น 1.9% จากเดือนก่อนหน้า
ส่วนดัชนีการขนส่งในภาคอุตสหกรรมปรับตัวขึ้น 1.2% แตะที่ 94.6 และดัชนีสต็อกสินค้าคงคลังในภาคอุตสาหกรรมทรงตัวอยู่ที่ 113.9