ดาวโจนส์วูบกว่า 100 จุด ราคาน้ำมันทรุดทุบตลาด ขณะกังวลเฟดขึ้นดบ.เดือนหน้า

ข่าวหุ้น-การเงิน Wednesday August 31, 2016 23:26 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ตลาดหุ้นนิวยอร์กดิ่งลงอย่างต่อเนื่องในวันนี้ โดยเป็นการปรับตัวลงเป็นวันที่ 5 ในรอบ 6 วัน ขณะที่ถูกกดดันจากราคาน้ำมันที่ทรุดตัวลงอย่างหนัก หลังสหรัฐเปิดเผยสต็อกน้ำมันดิบที่สูงกว่าคาดการณ์ ส่งผลให้หุ้นกลุ่มพลังงานดิ่งลง

นอกจากนี้ การเปิดเผยตัวเลขการจ้างงานของภาคเอกชนสหรัฐประจำเดือนส.ค.ที่สูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ ก็ทำให้มีแนวโน้มว่าตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรที่รัฐบาลสหรัฐจะรายงานในวันศุกร์นี้ อาจเพิ่มขึ้นอย่างแข็งแกร่ง และเป็นปัจจัยหนุนให้ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างเร็วที่สุดในเดือนหน้า

ณ เวลา 23.16 น.ตามเวลาไทย ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์อยู่ที่ 18,344.86 จุด ลดลง 109.44 จุด หรือ 0.59%

หุ้นกลุ่มพลังงานดิ่งลงนำตลาดวันนี้ ขณะที่หุ้นกลุ่มการเงินดีดตัวขึ้น

สัญญาน้ำมันดิบล่วงหน้า WTI ทรุดตัวลงกว่า 3% ในวันนี้ หลังสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) เปิดเผยสต็อกน้ำมันดิบสหรัฐพุ่งขึ้นมากกว่าคาดในสัปดาห์ที่แล้ว

ณ เวลา 23.17 น.ตามเวลาไทย สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ส่งมอบเดือนต.ค. ซึ่งมีการซื้อขายทางระบบอิเล็กทรอนิกส์ที่ตลาด NYMEX ดิ่งลง 1.41 ดอลลาร์ หรือ 3.04% สู่ระดับ 44.94 ดอลลาร์/บาร์เรล

EIA เปิดเผยในวันนี้ว่า สต็อกน้ำมันดิบสหรัฐเพิ่มขึ้น 2.3 ล้านบาร์เรล สู่ระดับ 525.9 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่แล้ว

นักวิเคราะห์คาดการณ์ก่อนหน้านี้ว่าสต็อกน้ำมันดิบจะเพิ่มขึ้นเพียง 900,000 บาร์เรล

EIA ยังเปิดเผยว่า สต็อกน้ำมันเบนซินลดลง 691,000 บาร์เรล เทียบกับที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะลดลง 1.2 ล้านบาร์เรล ขณะที่สต็อกน้ำมันกลั่น ซึ่งรวมถึงน้ำมันดีเซล และน้ำมัน heating oil เพิ่มขึ้น 1.5 ล้านบาร์เรล เทียบกับที่คาดว่าจะลดลง 157,000 บาร์เรล

ทางด้านสถาบันปิโตรเลียมอเมริกัน (API) เปิดเผยว่าสต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐเพิ่มขึ้น 942,000 บาร์เรล สู่ระดับ 525.2 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่แล้ว

นอกจากนี้ ดอลลาร์ที่แข็งค่าขึ้นก็เป็นปัจจัยกดดันราคาน้ำมันในวันนี้ โดยลดความน่าดึงดูดของน้ำมัน เนื่องจากทำให้สัญญาน้ำมันมีราคาแพงขึ้นสำหรับผู้ถือครองเงินสกุลอื่น

ดอลลาร์พุ่งแตะระดับสูงสุดในรอบ 1 เดือนเหนือระดับ 103 เยนในวันนี้ จากการคาดการณ์ที่เพิ่มมากขึ้นเกี่ยวกับการที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนหน้า ขณะที่เยนถูกกดดันจากการคาดการณ์ที่ว่า ธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) จะยังคงผ่อนคลายนโยบายการเงินต่อไป

นักลงทุนจับตากลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) ซึ่งจะจัดการประชุมอย่างไม่เป็นทางการในวันที่ 26-28 ก.ย.นี้ นอกรอบการประชุมพลังงานระหว่างประเทศ (IEF) ที่แอลจีเรีย ซึ่งที่ประชุมจะหารือการตรึงกำลังการผลิต เพื่อรักษาเสถียรภาพของราคาน้ำมัน

ออโตเมติก ดาต้า โพรเซสซิ่ง อิงค์ (ADP) เปิดเผยว่า การจ้างงานของภาคเอกชนสหรัฐประจำเดือนส.ค.เพิ่มขึ้น 177,000 ตำแหน่ง สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ระดับ 175,000 ตำแหน่ง

ขณะเดียวกัน ADP ได้ทบทวนปรับเพิ่มตัวเลขการจ้างงานในเดือนก.ค.สู่ระดับ 194,000 ตำแหน่ง จากเดิมที่ระดับ 179,000 ตำแหน่ง

ภาคบริการมีการจ้างงานเพิ่มขึ้น 183,000 ตำแหน่งในเดือนส.ค. ส่วนภาคการผลิตมีการจ้างงานลดลง 6,000 ตำแหน่ง

ทางด้านกระทรวงแรงงานสหรัฐจะเปิดเผยตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐในวันศุกร์นี้ ซึ่งจะเป็นตัวเลขการจ้างงานทั้งภาครัฐและเอกชน และจะบ่งชี้แนวโน้มการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟดในการประชุมวันที่ 20-21 ก.ย.

ผลการสำรวจนักวิเคราะห์ระบุว่า กระทรวงแรงงานสหรัฐจะรายงานตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรเพิ่มขึ้น 185,000 ตำแหน่งในเดือนส.ค. ขณะที่อัตราการว่างงานจะลดลงสู่ระดับ 4.8%


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ