ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์กดาวโจนส์ปิดร่วง 195.79 จุด วิตกสถานการณ์"ดอยซ์แบงก์"

ข่าวหุ้น-การเงิน Friday September 30, 2016 06:39 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (29 ก.ย.) เนื่องจากนักลงทุนยังคงวิตกกังวลเกี่ยวกับสถานะทางการเงินของธนาคารดอยซ์ แบงก์ และข่าวอื้อฉาวที่เกิดขึ้นในธนาคารเวลส์ ฟาร์โก ซึ่งความกังวลในเรื่องดังกล่าวส่งผลให้นักลงทุนกระหน่ำขายหุ้นกลุ่มธนาคาร นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงกดดันจากการที่เจ้าหน้าที่ของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ได้ออกมาสนับสนุนให้เฟดปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนธ.ค.นี้

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 18,143.45 จุด ร่วงลง 195.79 จุด หรือ -1.07% ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 5,269.15 จุด ลดลง 49.40 จุด หรือ -0.93% ดัชนี S&P 500 ปิดที่ 2,151.13 จุด ลดลง 20.24 จุด หรือ -0.93%

นักลงทุนเทขายหุ้นกลุ่มธนาคารอย่างหนัก เนื่องจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับสถานะทางการเงินของดอยซ์ แบงก์ นับตั้งแต่ที่กระทรวงยุติธรรมสหรัฐได้เรียกร้องให้ดอยซ์แบงก์จ่ายค่าปรับเป็นวงเงินสูงถึง 1.4 หมื่นล้านดอลลาร์ เพื่อยุติคดีความที่เกี่ยวข้องกับการจำหน่ายหลักทรัพย์ที่มีสัญญาจำนองค้ำประกัน (MBS)

ขณะที่ธนาคารเวลส์ ฟาร์โก กำลังเผชิญวิกฤตด้านความน่าเชื่อถือ หลังจากพนักงานของธนาคารได้เปิดบัญชีลูกค้าโดยไม่ได้รับอนุญาตเป็นจำนวนกว่า 2 ล้านบัญชี เพื่อจะเพิ่มยอดขายผลิตภัณฑ์ด้านการเงิน โดยล่าสุดเมื่อวานนี้ นายจอห์น สตัมฟ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของเวลส์ ฟาร์โก ได้ถูกคณะกรรมาธิการด้านบริการการเงินแห่งสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐทำการสอบสวนรอบใหม่ พร้อมกับกดดันให้เวลส์ ฟาร์โก รับผิดชอบต่อสิ่งที่เกิดขึ้น นอกจากนี้มีรายงานว่า หน่วยงานด้านการคลังของรัฐแคลิฟอร์เนียได้ประกาศระงับการลงทุนในหลักทรัพย์และผลิตภัณฑ์การเงินอื่นๆของเวลส์ ฟาร์โก

ทั้งนี้ หุ้นดอยซ์ แบงก์ ร่วงลง 6.7% หุ้นเวลส์ ฟาร์โก ร่วงลง 2.1% หุ้นโกลด์แมน แซคส์ ดิ่งลง 2.8% หุ้นซิตี้กรุ๊ป ร่วงลง 2.28% และหุ้นเจพีมอร์แกน เชส ปรับตัวลง 1.5%

หุ้นกลุ่มเวชภัณฑ์ร่วงลง หลังจากมีรายงานว่า วุฒิสมาชิกของสหรัฐได้เรียกร้องให้กระทรวงยุติธรรมดำเนินการสอบสวนบริษัทมายแลน อิงค์ (Mylan Inc.) ในกรณีที่ทางบริษัทได้กำหนดราคายา "EpiPen" ที่ใช้รักษาอาการแพ้ขั้นรุนแรง ในอัตราที่สูงเกินไป ทั้งนี้ หุ้นมายแลน ร่วงลง 4.4% หุ้นเมอร์ก แอนด์ โค ดิ่งลง 2.2% และหุ้นแอมเจน ร่วงลง 2.5%

ส่วนหุ้นกลุ่มพลังงานปรับตัวผันผวน โดยหุ้นเมอร์ฟีย์ ออยล์ พุ่งขึ้น 4.9% หุ้นทรานส์โอเชียน ดีดตัวขึ้น 4.8% แต่หุ้นวาเลโร เอนเนอร์จี ดิ่งลง 6% และหุ้นเทโซโร คอร์ป ร่วงลง 6.1% นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงกดดันจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟด หลังจากนายแพทริค ฮาร์เกอร์ ประธานเฟดสาขาฟิลาเดลเฟีย และนายเดนนิส ล็อคฮาร์ท ประธานเฟดสาขาแอตแลตตา ต่างก็ออกมาสนับสนุนให้เฟดปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนธ.ค. นักลงทุนจับตาดูข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐในวันนี้ ซึ่งได้แก่ดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) เดือนส.ค. และดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนก.ย.โดยมหาวิทยาลัยมิชิแกน


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ