ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์กดาวโจนส์ปิดบวก 40.68 จุด รับราคาน้ำมันพุ่ง

ข่าวหุ้น-การเงิน Thursday October 20, 2016 06:27 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (19 ต.ค.) หลังจากราคาน้ำมันดิบทะยานขึ้นกว่า 2% ซึ่งช่วยหนุนหุ้นกลุ่มพลังงานดีดตัวขึ้นด้วย นอกจากนี้ ผลประกอบการที่แข็งแกร่งของมอร์แกน สแตนลีย์ ยังช่วยกระตุ้นให้มีแรงซื้อส่งเข้าหนุนหุ้นกลุ่มการเงินอย่างคึกคัก

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 18,202.62 จุด เพิ่มขึ้น 40.68 จุด หรือ +0.22% ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 5,246.41 จุด เพิ่มขึ้น 2.57 จุด หรือ +0.05% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,144.29 จุด เพิ่มขึ้น 4.69 จุด หรือ +0.22%

ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกติดต่อกัน 2 วันทำการ โดยได้ปัจจัยหนุนจากราคาน้ำมันดิบ WTI ที่พุ่งขึ้นกว่า 2% เมื่อคืนนี้ หลังจากสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) เปิดเผยว่า สต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐปรับตัวลงในสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งสวนทางกับที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะปรับตัวเพิ่มขึ้น โดยข้อมูลดังกล่าวช่วยให้นักลงทุนคลายความวิตกกังวลเกี่ยวกับภาวะน้ำมันล้นตลาด

ทั้งนี้ การพุ่งขึ้นของราคาน้ำมันช่วยหนุนหุ้นกลุ่มพลังงานดีดตัวขึ้นด้วย โดยหุ้นฮัลลิเบอร์ตัน พุ่งขึ้น 4.3% หุ้นทรานส์โอเชียน ทะยานขึ้น 5.7% หุ้นนิวฟิลด์ เอ็กซ์พลอเรชั่น ปรับตัวขึ้น 3.9%

หุ้นกลุ่มการเงินดีดตัวขึ้น หลังจากมอร์แกน สแตนลีย์ เปิดเผยว่า บริษัทมีกำไร 1.6 พันล้านดอลลาร์ หรือ 81 เซนต์ต่อหุ้น ในไตรมาส 3 ซึ่งสิ้นสุดวันที่ 30 ก.ย.ที่ผ่านมา เพิ่มขึ้นจาก 1 พันล้านดอลลาร์ หรือ 48 เซนต์ต่อหุ้น ในช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว ส่วนรายได้เพิ่มขึ้น 15% แตะ 8.91 พันล้านดอลลาร์ จาก 7.77 พันล้านดอลลาร์

มอร์แกน สแตนลีย์ระบุว่า ปัจจัยที่ช่วยหนุนผลประกอบการในไตรมาส 3 นั้น มาจากรายได้จากการซื้อขายตราสารหนี้ที่เพิ่มขึ้นแข็งแกร่งถึงเกือบสามเท่า โดยเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 1.5 พันล้านดอลลาร์ในไตรมาส 3 จาก 583 ล้านดอลลาร์ในช่วงเดียวกันของปีก่อน

ทั้งนี้ หุ้นมอร์แกน สแตนลีย์ พุ่งขึ้น 1.9% หุ้นโกลด์แมน แซคส์ ปรับตัวขึ้น 1.09% และหุ้นเจพีมอร์แกน เชส แอนด์ โค ดีดตัวขึ้นเกือบ 1% ส่วนดัชนีหุ้นกลุ่มการเงินปรับฐานขึ้น 0.8%

หุ้นกลุ่มเทคโนโลยีปรับตัวผันผวน โดยหุ้นยาฮู พุ่งขึ้น 2.5% หลังจากบริษัทเปิดเผยผลประกอบการที่ดีเกินคาดในไตรมาส 3 แต่หุ้นอินเทล ร่วงลงเกือบ 6% เนื่องจากนักลงทุนผิดหวังต่อรายงานผลประกอบการของบริษัท

นอกจากนี้ ตลาดหุ้นนิวยอร์กยังได้รับปัจจัยบวกจากรายงานสรุปภาวะเศรษฐกิจของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) หรือ Beige Book โดยรายงานระบุว่า เศรษฐกิจสหรัฐยังคงมีการขยายตัวอย่างต่อเนื่องในช่วงปลายเดือนส.ค.จนถึงต้นเดือนต.ค. และแนวโน้มเศรษฐกิจส่วนใหญ่ยังคงเป็นบวก

อย่างไรก็ตาม ตลาดได้รับแรงกดดันในระหว่างวัน จากความอ่อนแอของข้อมูลด้านตลาดที่อยู่อาศัย โดยกระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ตัวเลขการเริ่มต้นสร้างบ้านลดลง 9% ในเดือนก.ย. สู่ระดับ 1.05 ล้านยูนิต ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนมี.ค.ปีที่แล้ว เนื่องจากการก่อสร้างที่อยู่อาศัยแบบหลายครอบครัวร่วงลงอย่างหนัก

นักลงทุนจับตาดูข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญในวันนี้ ซึ่งได้แก่จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์,ดัชนีภาคการผลิตเดือนต.ค.จากเฟด ฟิลาเดลเฟีย และยอดขายบ้านมือสองเดือนก.ย.


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ