ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์กดาวโจนส์ปิดลบ 16.64 จุด เหตุผลประกอบการผันผวน,วิตกเฟดขึ้นดบ.

ข่าวหุ้น-การเงิน Saturday October 22, 2016 06:31 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดขยับลงเมื่อคืนนี้ (21 ต.ค.) หลังจากบริษัทจดทะเบียนรายใหญ่ของสหรัฐเปิดเผยผลประกอบการที่ผันผวน โดยบริษัทแมคโดนัลด์ คอร์ป เปิดเผยผลประกอบการไตรมาส 3 ปี 2559 ออกมาดีกว่าการคาดการณ์ของตลาด ขณะที่เจเนอรัล อิเลคทริค (GE) เปิดเผยรายได้ที่ต่ำกว่าคาด และยังได้ปรับลดคาดการณ์ผลประกอบการตลอดปี 2559 นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงกดดันหลังจากนายจอห์น วิลเลียมส์ ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขาซานฟรานซิสโก ได้ออกมาสนับสนุนให้เฟดปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเร็วๆนี้

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 18,145.71 จุด ลดลง 16.64 จุด หรือ -0.09% ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 5,257.40 จุด เพิ่มขึ้น 15.57 จุด หรือ +0.30% และดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,141.16 จุด ลดลง 0.18 จุด หรือ -0.01%

ตลอดทั้งสัปดาห์ ดัชนีดาวโจนส์ปรับตัวขึ้นทั้งสิ้น 0.04% ขณะที่ดัชนี S&P500 เพิ่มขึ้น 0.38% และดัชนี NASDAQ เพิ่มขึ้น 0.83%

ภาวะการซื้อขายในตลาดหุ้นนิวยอร์กเป็นไปอย่างผันผวน เนื่องจากผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนรายใหญ่ไม่ได้ออกมาในทิศทางเดียวกัน โดย GE ซึ่งเป็นบริษัทด้านอุตสาหกรรมรายใหญ่ของสหรัฐ ประกาศปรับลดคาดการณ์การขยายตัวของรายได้ในปี 2559 เนื่องจากการชะลอตัวของเศรษฐกิจส่งผลให้ความต้องการผลิตภัณฑ์ของทางบริษัทซบเซาลงด้วย

ทั้งนี้ GE คาดว่า รายได้ในปี 2559 จะเพิ่มขึ้นเพียง 2% จากก่อนหน้านี้ที่คาดว่ารายได้จะเพิ่มขึ้นราว 2%-4% พร้อมกับปรับลดคาดการณ์ผลกำไรต่อหุ้นในปี 2559 ลงเหลือ 1.48-1.52 ดอลลาร์ จากก่อนหน้านี้ที่คาดการณ์ไว้ในกรอบ 1.45-1.55 ดอลลาร์

นอกจากนี้ GE ยังได้เปิดเผยตัวเลขกำไรต่อหุ้นในไตรมาส 3/2559 อยู่ที่ 32 เซนต์ ซึ่งสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ 31 เซนต์ แต่ยอดขายในไตรมาส 3 อยู่ที่ 2.93 หมื่นล้านดอลลาร์ ซึ่งน้อยกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ 2.96 หมื่นล้านดอลลาร์

ด้านแมคโดนัลด์ คอร์ป เปิดเผยผลประกอบการไตรมาส 3 ปี 2559 ออกมาดีกว่าการคาดการณ์ของตลาด โดยได้แรงหนุนจากยอดขายในตลาดต่างประเทศ รวมถึงการขยายเวลาขายอาหารเช้าเป็นตลอดทั้งวันในสหรัฐ และการออกเมนูใหม่ที่ใส่ใจสุขภาพมากขึ้น

แมคโดนัลด์เผยว่า กำไรต่อหุ้นในช่วงเดือนก.ค.-ก.ย. อยู่ที่ 1.50 ดอลลาร์ จากรายได้ 6.42 พันล้านดอลลาร์ สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ว่า กำไรต่อหุ้นของแมคโดนัลด์จะอยู่ที่ 1.48 ดอลลาร์ และรายได้อยู่ที่ 6.28 พันล้านดอลลาร์

ทั้งนี้ หุ้น GE ปิดตลาดอ่อนแรงลง 0.3% ขณะที่หุ้นแมคโดนัลด์ ปิดพุ่งขึ้น 3%

หุ้นฮันนีเวลล์ อินเตอร์เนชันแนล ขยับขึ้นเพียง 0.8% หลังจากบริษัทเปิดเผยยอดขายที่ต่ำกว่าคาด ขณะที่หุ้นควอลคอมม์ ดีดตัวขึ้น 0.9% หลังจากบริษัทยื่นข้อเสนอเทคโอเวอร์กิจการเอ็นเอ็กซ์พี เซมิคอนดัคเตอร์ส

หุ้นเรย์โนลด์ อเมริกัน อิงค์ ซึ่งเป็นบริษัทยาสูบสหรัฐ พุ่งขึ้น 14% หลังจากมีรายงานว่าบริษัทบริติช อเมริกัน โทแบคโค (BAT) ซึ่งเป็นบริษัทยาสูบข้ามชาติรายใหญ่จากอังกฤษ เสนอซื้อหุ้นของเรย์โนลด์ นมูลค่า 4.7 หมื่นล้านดอลลาร์ โดยผู้ถือหุ้นเรย์โนลด์จะได้รับค่าตอบแทนในรูปเงินสดและหุ้นของ BAT

ตลาดหุ้นนิวยอร์กได้รับแรงกดดันหลังจากนายจอห์น วิลเลียมส์ ประธานเฟดสาขาซานฟรานซิสโก ได้กล่าวสุนทรพจน์ในการประชุมประจำปีของสมาคมธนาคารเพื่อการปล่อยกู้ซื้อบ้านเมื่อวานนี้ว่า เฟดควรเริ่มดำเนินการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเร็วๆนี้ เมื่อพิจารณาจากภาวะเศรษฐกิจที่เริ่มเคลื่อนไหวในทิศทางที่ดีขึ้น โดยการปรับขึ้นดอกเบี้ยควรเป็นในลักษณะค่อยเป็นค่อยไป

ทั้งนี้ นักวิเคราะห์คาดการณ์เป็นวงกว้างว่า คณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินของเฟดจะคงอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนพ.ย. แต่มีแนวโน้มที่จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนธ.ค.


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ