ดาวโจนส์ฟิวเจอร์ปรับตัวขึ้น บ่งชี้วอลล์สตรีทเปิดแดนบวกคืนนี้ ขณะจับตาผลประกอบการ,ตัวเลขศก.

ข่าวหุ้น-การเงิน Thursday October 27, 2016 20:10 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ดัชนีดาวโจนส์ล่วงหน้าปรับตัวขึ้นในวันนี้ บ่งชี้ว่าตลาดหุ้นวอลล์สตรีทจะเปิดในแดนบวกคืนนี้ ขณะที่นักลงทุนจับตาการเปิดเผยผลประกอบการ และตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐ

ณ เวลา 20.01 น.ตามเวลาไทย ดัชนีดาวโจนส์ล่วงหน้าบวก 45 จุด หรือ 0.25% สู่ระดับ 18,173 จุด

ราคาหุ้นทวิตเตอร์พุ่งขึ้นในวันนี้ ในการซื้อขายก่อนเปิดตลาดหุ้นวอลล์สตรีท หลังบริษัทเปิดเผยผลประกอบการที่สดใส และการปลดพนักงาน 9% ทั่วโลก

ณ เวลา 19.30 น.ตามเวลาไทย ราคาหุ้นทวิตเตอร์ทะยานขึ้น 4.74% สู่ระดับ 18.11 ดอลลาร์

ทั้งนี้ บริษัททวิตเตอร์ อิงค์ เปิดเผยว่า ทางบริษัทประสบภาวะขาดทุน 102.9 ล้านดอลลาร์ในไตรมาส 3 หรือ 15 เซนต์/หุ้น

อย่างไรก็ดี เมื่อมีการปรับมูลค่าทางบัญชี บริษัทมีกำไร 13 เซนต์/หุ้น ขณะที่มีรายได้ 616 ล้านดอลลาร์

นักวิเคราะห์คาดการณ์ก่อนหน้านี้ว่า บริษัทจะมีกำไร 9 เซนต์/หุ้น และมีรายได้ 605.7 ล้านดอลลาร์

ทวิตเตอร์ระบุว่า ทางบริษัทไม่ได้ออกตัวเลขคาดการณ์รายได้สำหรับไตรมาส 4 หรือตลอดทั้งปีนี้ เนื่องจากบริษัทกำลังทำการปรับโครงสร้างพนักงาน

ทั้งนี้ ทวิตเตอร์ประกาศปลดพนักงานราว 9% ทั่วโลกในวันนี้ หรือคิดเป็นจำนวนมากกว่า 300 คนของพนักงานทั้งหมด

ข่าวการปลดพนักงานดังกล่าวมีขึ้น หลังจากที่บริษัท Salesforce.com, วอลท์ดิสนีย์ และ อัลฟาเบท ต่างก็ไม่ได้แสดงความสนใจที่จะเข้าซื้อกิจการของบริษัท

นอกจากนี้ ทวิตเตอร์ยังได้เตรียมบันทึกค่าใช้จ่ายในการปรับโครงสร้างพนักงงานดังกล่าว คิดเป็นจำนวนเงิน 10-20 ล้านดอลลาร์

ขณะนี้ ทวิตเตอร์มีจำนวนพนักงานทั้งหมด 3,860 คน

ก่อนหน้านี้ ทวิตเตอร์ได้ประกาศปลดพนักงาน 336 คนในเดือนต.ค.ปีที่แล้ว หรือราว 8% ของจำนวนพนักงานทั้งหมดในขณะนั้น

กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนของสหรัฐ เช่น เครื่องบิน รถยนต์ และเครื่องจักรขนาดใหญ่ที่มีอายุการใช้งานตั้งแต่ 3 ปีขึ้นไป ลดลง 0.1% ในเดือนก.ย. หลังจากร่วงลง 0.3% ในเดือนส.ค. ท่ามกลางอุปสงค์ที่ลดลงสำหรับคอมพิวเตอร์, สินค้าอิเลกทรอนิกส์ และอุปกรณ์ด้านการขนส่ง

ขณะเดียวกัน ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนพื้นฐาน ซึ่งเป็นคำสั่งซื้อสินค้าทุนที่ไม่รวมเครื่องบิน และเป็นสิ่งบ่งชี้แผนการใช้จ่ายของภาคธุรกิจ ลดลง 1.2% ในเดือนก.ย. หลังจากปรับตัวขึ้น 3 เดือนติดต่อกัน

นักวิเคราะห์คาดการณ์ก่อนหน้านี้ว่า ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนพื้นฐานของสหรัฐจะเพิ่มขึ้น 0.3% ในเดือนก.ย.

นอกจากนี้ กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า จำนวนชาวอเมริกันที่ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกลดลง 3,000 รายในสัปดาห์ที่แล้ว สู่ระดับ 258,000 ราย

การเปิดเผยตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานที่ลดลงดังกล่าว บ่งชี้ถึงภาวะตลาดแรงงานที่แข็งแกร่งของสหรัฐ และหนุนให้ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ทำการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนธ.ค.

นักวิเคราะห์คาดการณ์ก่อนหน้านี้ว่าจำนวนชาวอเมริกันที่ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกจะลดลงสู่ระดับ 255,000 รายในสัปดาห์ที่แล้ว

จำนวนชาวอเมริกันที่ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกได้อยู่ต่ำกว่า 300,000 ราย เป็นสัปดาห์ที่ 86 ติดต่อกัน ซึ่งยาวนานที่สุดนับตั้งแต่ปี 1970

ส่วนตัวเลขค่าเฉลี่ย 4 สัปดาห์ของจำนวนชาวอเมริกันที่ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรก ซึ่งถือเป็นมาตรวัดตลาดแรงงานที่ดีกว่า เนื่องจากขจัดความผันผวนรายสัปดาห์ เพิ่มขึ้น 1,000 ราย สู่ระดับ 253,000 รายในสัปดาห์ที่แล้ว

สำหรับจำนวนชาวอเมริกันที่ยังคงขอรับสวัสดิการว่างงานต่อเนื่อง มีจำนวนลดลง 15,000 ราย สู่ระดับ 2.04 ล้านราย ในรอบสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 15 ต.ค. ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนมิ.ย.2000 ส่วนตัวเลขค่าเฉลี่ย 4 สัปดาห์ ลดลง 6,250 ราย สู่ระดับ 2.05 ล้านราย ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนก.ค.2000


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ