ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปรับตัวเพิ่มขึ้นเป็นวันที่ 5 ติดต่อกันเมื่อคืนนี้ (9 ธ.ค.) แตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์อย่างต่อเนื่อง หลังจากสหรัฐเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่สดใส
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปรับตัวเพิ่มขึ้น 142.04 จุด หรือ 0.72% ปิดที่ 19,756.85 จุด ดัชนี S&P 500 เพิ่มขึ้น 13.34 จุด หรือ 0.59% ปิดที่ 2,259.53 จุด และดัชนี Nasdaq เพิ่มขึ้น 27.14 จุด หรือ 0.50% ปิดที่ 5,444.50 จุด
ดัชนีดาวโจนส์ปรับตัวขึ้นติดต่อกันเป็นวันที่ 5 หลังผลสำรวจของมหาวิทยาลัยมิชิแกนระบุว่า ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคสหรัฐพุ่งขึ้นในเดือนธ.ค. แตะระดับ 98.0 โดยสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 94.5 รวมทั้งสูงกว่าระดับ 93.8 ในเดือนพ.ย.
ดัชนีความเชื่อมั่นพุ่งขึ้นในเดือนธ.ค. แตะระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนม.ค.2015 ได้รับปัจจัยบวกจากชัยชนะของนายโดนัลด์ ทรัมป์ในการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐในวันที่ 8 พ.ย.
นักวิเคราะห์กล่าวว่า การปรับตัวขึ้นของตลาดหุ้นสหรัฐในสัปดาห์นี้ส่วนใหญ่มาจากความเชื่อที่ว่า นโยบายเศรษฐกิจของนายโดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐ จะกระตุ้นการขยายตัวของเศรษฐกิจสหรัฐ
ทั้งนี้ นักลงทุนยังจับตาการประชุมธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในวันที่ 13-14 ธ.ค.นี้
หุ้นโคคา-โคลา โค เพิ่มขึ้น 2.5% หลังจากระบุว่า ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของบริษัทจะลาออกจากตำแหน่งในเดือนพ.ค. 2517 และนายเจมส์ ควินซีย์ ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการคนปัจจุบันจะก้าวขึ้นรับตำแหน่งแทน
หุ้นสกายพุ่งขึ้น 27% หลังบรรลุข้อตกลงในเบื้องต้นในการเข้าซื้อหุ้นบริษัทในส่วนที่เหลือโดยบริษัททเว็นตี้เฟิร์สต์ เซ็นจูรี ฟอกซ์ อิงค์
หุ้นบอร์ดคอม ผู้ผลิตชิปคอมพิวเตอร์รายใหญ่ของสหรัฐเพิ่มขึ้น 4.9% หลังบริษัทเปิดเผยรายได้ที่แข็งแกร่งและประกาศจ่ายเงินปันผล