ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนแตะระดับสูงสุดในรอบเกือบ 6 สัปดาห์เมื่อคืนนี้ (9 ธ.ค.) ทำสถิติปรับตัวเพิ่มขึ้น 5 วันติดต่อกัน หลังจากเงินสกุลปอนด์อ่อนค่าลงอย่างต่อเนื่อง
ดัชนี FTSE 100 ปิดปรับตัวขึ้น 22.66 จุด หรือ 0.33% ที่ระดับ 6,954.21 จุด
เงินสกุลปอนด์อ่อนค่าลงหลังจากสำนักงานสถิติแห่งชาติของอังกฤษระบุว่า ผลผลิตภาคก่อสร้างของอังกฤษหดตัวลง 0.6% ในเดือนต.ค. เมื่อเทียบกับเดือนก.ย.
อย่างไรก็ดี ตลาดหุ้นลอนดอนได้รับปัจจัยหนุนจากรายงานของสำนักงานสถิติแห่งชาติของอังกฤษที่ระบุว่า ยอดขาดดุลการค้าของอังกฤษลดลงแตะระดับ 9.7 พันล้านปอนด์ (1.22 หมื่นล้านดอลลาร์) ในเดือนต.ค. จากระดับ 1.38 หมื่นล้านปอนด์ในเดือนก.ย.
นอกจากนี้ นักลงทุนยังมีความเชื่อมั่นเพิ่มขึ้น หลังจากนายเดวิด ดาวีส ซึ่งรับผิดชอบในด้านการแยกตัวจากสหภาพยุโรปของอังกฤษ (Brexit) กล่าวย้ำว่า เขาจะไม่ย่อท้อต่อแรงกดดันจากผู้นำทางการเงินในลอนดอนที่ต้องการให้มีการกำหนดระยะเวลาในการเปลี่ยนผ่านเพื่อปกป้องธุรกิจของตนเอง
หุ้นกลุ่มธนาคารปรับตัวลดลง กดดันให้ตลาดหุ้นลอนดอนปรับตัวขึ้นในวงจำกัด โดยหุ้นบาร์เคลย์ส ลดลง 2.5% หุ้นลอยด์ส แบงกิ้ง กรุ๊ป ลดลง 1.6% และหุ้นรอยัล แบงก์ ออฟ สกอตแลนด์ ลดลง 1.4% เนื่องจากแรงเทขายทำกำไร หลังจากที่ต่างก็พุ่งแรงในช่วงก่อนหน้านี้
หุ้นแอสโซซิเอทเต็ด บริติช ฟู้ดส์ เพิ่มขึ้น 1% หลังจากระบุว่า บริษัทเชื่อว่าอัตราแลกเปลี่ยนจะทรงตัวอยู่ที่ระดับปัจจุบัน ซึ่งจะส่งผลให้บริษัทมีรายได้จากต่างประเทศเพิ่มขึ้น เนื่องจากการอ่อนค่าของเงินปอนด์