ตลาดหุ้นนิวยอร์กดีดตัวขึ้นในวันนี้ โดยดัชนีดาวโจนส์พุ่งขึ้นกว่า 100 จุด แตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ใกล้ระดับ 20,000 จุด ก่อนการประชุมธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ที่จะเริ่มขึ้นในวันนี้
ณ เวลา 21.47 น.ตามเวลาไทย ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์อยู่ที่ 19,901.31 จุด เพิ่มขึ้น 105.37 จุด หรือ 0.53%
ดัชนีดาวโจนส์ทะยานขึ้นราว 14% นับตั้งแต่ต้นปีนี้ โดยการปรับตัวขึ้นส่วนใหญ่เกิดขึ้นหลังจากที่นายโดนัลด์ ทรัมป์ สร้างความประหลาดใจต่อตลาดด้วยการคว้าชัยชนะในการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐในวันที่ 8 พ.ย. ซึ่งนับตั้งแต่วันดังกล่าว ดัชนีดาวโจนส์ก็ได้พุ่งขึ้นมากกว่า 8% ขณะที่ทำสถิติปิดตลาดที่ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์เป็นเวลา 15 วัน
หุ้นกลุ่มการเงินดีดตัวนำตลาดวันนี้ โดยหุ้นโกลด์แมน แซคส์ช่วยหนุนตลาดมากที่สุด
เฟดจะจัดการประชุมในวันที่ 13-14 ธ.ค. ขณะที่มีการคาดการณ์กันว่าคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินของเฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมครั้งนี้ ซึ่งจะเป็นการปรับขึ้นครั้งแรกในปีนี้ และครั้งที่ 2 ในรอบเกือบ 10 ปี
นักลงทุนจับตาแถลงการณ์ของเฟดหลังการประชุมเพื่อหาสัญญาณบ่งชี้การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปีหน้า
ทางด้านกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยในวันนี้ว่า ดัชนีราคานำเข้าดิ่งลงในเดือนพ.ย. โดยปรับตัวลง 0.3% เมื่อเทียบรายเดือน หลังจากดีดตัวขึ้น 0.4% ในเดือนต.ค.
ดัชนีราคานำเข้าในเดือนพ.ย.ปรับตัวลงรุนแรงที่สุดนับตั้งแต่เดือนก.พ. หลังจากปรับตัวขึ้นติดต่อกัน 2 เดือน
ดัชนีราคานำเข้าดิ่งลงในเดือนพ.ย.จากต้นทุนราคาน้ำมันที่ลดลง ขณะที่การแข็งค่าของดอลลาร์เป็นปัจจัยสกัดราคานำเข้า
นอกจากนี้ กระทรวงแรงงานสหรัฐยังเปิดเผยว่า ดัชนีราคาส่งออกลดลง 0.1% ในเดือนพ.ย. เมื่อเทียบรายเดือน และร่วงลง 0.3% เมื่อเทียบรายปี ซึ่งเป็นการปรับตัวลงน้อยที่สุดนับตั้งแต่เดือนส.ค.2014 หลังจากร่วงลง 1.0% ในเดือนต.ค.