ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์กดาวโจนส์ปิดลบ 8.83 จุด วิตกข่าวจีนยึดโดรนใต้ทะเลสหรัฐ

ข่าวหุ้น-การเงิน Saturday December 17, 2016 06:40 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (16 ธ.ค.) เนื่องจากนักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับความตึงเครียดในทะเลจีน หลังจากมีรายงานว่า เรือรบของกองทัพจีนได้ยึดโดรนใต้ทะเลของสหรัฐในบริเวณทะเลจีนใต้ ซึ่งส่งผลให้สหรัฐร้องเรียนจีนผ่านช่องทางการทูต นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงกดดันหลังจากกระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ตัวเลขการเริ่มต้นสร้างบ้านของสหรัฐร่วงลงมากกว่าคาดในเดือนพ.ย.

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 19,843.41 จุด ลดลง 8.83 จุด หรือ -0.04% ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 5,437.16 จุด ลดลง 19.69 จุด หรือ -0.36% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,258.07 จุด ลดลง 3.96 จุด หรือ -0.18%

ตลอดทั้งสัปดาห์ ดัชนีดาวโจนส์ขยับขึ้นเพียง 0.4% ขณะที่ดัชนี S&P500 และ NASAQ ต่างก็ปรับตัวลง 0.1%

ภาวะการซื้อขายในตลาดหุ้นนิวยอร์กได้รับแรงกดดันหลังจากกระทรวงกลาโหมสหรัฐเปิดเผยว่า เรือรบของกองทัพจีนได้ยึดโดรนใต้ทะเลของสหรัฐในบริเวณทะเลจีนใต้ ขณะที่ทางการสหรัฐได้เรียกร้องให้จีนส่งมอบโดรนดังกล่าวคืนให้กับสหรัฐ

แถลงการณ์ของกระทรวงกลาโหมสหรัฐระบุว่า เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นที่บริเวณน่านน้ำสากล ห่างจากชายฝั่งตะวันตกเฉียงเหนือของอ่าวซูบิค ประเทศฟิลิปปินส์ ออกไปประมาณ 50 ไมล์ทะเล โดยในขณะนั้น เรือ USNS Bowditch ซึ่งเป็นเรือลาดตระเวนในมหาสมุทรของสหรัฐ กำลังนำยานใต้ทะเลแบบไร้คนขับ หรือ UUV (Unmanned Underwater Vehicle) ขึ้นจากท้องมหาสมุทร แต่เรือรบของจีนได้ส่งเรือลำเล็กออกไป และทำการยึด UUV ของสหรัฐอย่างผิดกฎหมาย

ทั้งนี้ เรือ USNS Bowditch ได้ส่งสัญญาณติดต่อกับเรือรบของจีน ซึ่งจีนได้รับทราบคำขอ แต่กลับเพิกเฉยต่อคำขอ จึงส่งผลให้สหรัฐร้องเรียนจีนผ่านช่องทางการทูต

นักวิเคราะห์จากโวยา ไฟแนนเชียลกล่าวว่า ข่าวจีนยึดโดรนใต้ทะเลของสหรัฐส่งผลให้นักลงทุนชะลอการซื้อสินทรัพย์เสี่ยง และหันไปถือครองพันธบัตรสหรัฐซึ่งมีความปลอดภัยมากกว่วา นอกจากนี้ ความเคลื่อนไหวดังกล่าวยังส่งผลให้เกิดความวิตกกังวลว่า ความตึงเครียดในทะเลจีนใต้อาจทวีความรุนแรงมากขึ้น และไม่บ่อยนักที่จะเห็น 2 ชาติมหาอำนาจอย่างจีนและสหรัฐ เผชิญหน้ากันในลักษณะนี้

หุ้นบลูชิพร่วงลงหนักสุด นำโดยหุ้นแคเทอร์พิลลาร์ และหุ้นโกลด์แมน แซคส์

หุ้นออราเคิล ดิ่งลง 4.2% หลังจากบริษัทเปิดเผยผลประกอบการที่อ่อนแอเกินคาด

หุ้นกลุ่มค้าปลีกร่วงลง หลังจากนักวิเคราะห์ของเจพีมอร์แกนได้ปรับลดน้ำหนักความน่าลงทุนของหุ้นนอร์ดสตรอม ซึ่งส่งผลให้หุ้นนอร์ดสตรอม ร่วงลง 8.7% ขณะที่หุ้นโคล์ท ดิ่งลง 7.9% หุ้นเมซี ร่วงลง 6.7% และหุ้นแก๊ป ปรับตัวลง 6.5%

นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงกดดันจากข้อมูลเศรษฐกิจที่อ่อนแอของสหรัฐ โดยกระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ตัวเลขการเริ่มต้นสร้างบ้านร่วงลง 18.7% ในเดือนพ.ย. สู่ระดับ 1.09 ล้านยูนิต ซึ่งย่ำแย่กว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าตัวเลขการเริ่มต้นสร้างบ้านจะลดลงสู่ระดับ 1.23 ล้านยูนิต ส่วนการอนุญาตก่อสร้างบ้านลดลง 4.7% ในเดือนพ.ย.


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ