ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์กดาวโจนส์ปิดลบ 58.96 จุด หลังหุ้นการเงิน,ดอลล์ร่วงหนัก

ข่าวหุ้น-การเงิน Wednesday January 18, 2017 06:19 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดลดลงในวันอังคาร (17 ม.ค.) จากแรงขายหุ้นกลุ่มการเงินและหุ้นกลุ่มอุตสาหกรรม ขณะที่ดอลลาร์ที่ร่วงลงอย่างหนัก หลังนายโดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐแสดงความเห็นว่า ดอลลาร์ที่แข็งค่ากำลังสร้างความเสียหายให้กับเศรษฐกิจสหรัฐ นอกจากนี้ ภาวะการซื้อขายส่วนหนึ่งยังได้รับแรงกดดันจากถ้อยแถลงที่แข็งกร้าวของนายกรัฐมนตรี เทเรซา เมย์ ของอังกฤษ เกี่ยวกับแผนการของอังกฤษในการแยกตัวออกจากสหภาพยุโรป (Brexit)

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ลดลง 58.96 จุด หรือ 0.30% ปิดที่ 19,826.77 จุด ดัชนี S&P500 ลดลง 6.75 จุด หรือ 0.30% ปิดที่ 2,267.89 จุด ดัชนี NASDAQ ลดลง 35.39 จุด หรือ 0.63% ปิดที่ 5,538.73 จุด

ดอลลาร์ร่วงลงอย่างหนัก โดยในการให้สัมภาษณ์ต่อหนังสือพิมพ์วอลล์สตรีท เจอร์นัล ฉบับตีพิมพ์เมื่อวันศุกร์ นายทรัมป์กล่าววิพากษ์วิจารณ์ว่า ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเกินไป เพราะจีนพยายามทำให้เงินหยวนของตนเองนั้นอ่อนค่าลง ระบุบริษัทของสหรัฐไม่สามารถแข่งขันกับบริษัทของจีนได้ เพราะสกุลเงินดอลลาร์แข็งค่าเกินไป และสิ่งนี้กำลังส่งผลกระทบต่อสหรัฐ

ทั้งนี้ ตลาดหุ้นสหรัฐปิดทำการในวันจันทร์ที่ผ่านมา เนื่องในวันมาร์ติน ลูเธอร์ คิง จูเนียร์ และกลับมาเปิดซื้อขายวันแรกของสัปดาห์ในวันอังคาร

ขณะเดียวกัน การที่นางเทเรซา เมย์ นายกรัฐมนตรีอังกฤษ กล่าวแถลงการณ์วานนี้ โดยระบุรายละเอียดสำหรับแผนการของอังกฤษในการแยกตัวออกจากสหภาพยุโรป (Brexit) ก็ได้สร้างความวิตกต่อนักลงทุนเช่นกัน

นางเมย์กล่าวว่า อังกฤษจะถอนตัวออกจากตลาดร่วมยุโรป ขณะที่จะหาทางทำข้อตกลงการค้าเสรี (FTA) กับสหภาพยุโรป (EU) รวมทั้งยังระบุด้วยว่าจะทำให้อังกฤษกลับมามีอำนาจใช้กฎหมายของประเทศ โดยการถอนตัวออกจากศาลยุติธรรมยุโรป (ECJ) และจะทำให้อังกฤษสามารถควบคุมการเข้าประเทศของชาวต่างชาติที่เดินทางมาจากยุโรป

นางเมย์จะเริ่มกระบวนการเจรจาข้อตกลง Brexit กับสหภาพยุโรปในช่วงสิ้นเดือนมี.ค. โดยจะใช้เวลา 2 ปี ซึ่งนางเมย์จะใช้หลักการเจรจา 4 ข้อ ได้แก่ ความแน่นอนและความชัดเจน, การทำให้อังกฤษมีความแข็งแกร่งขึ้น, การทำให้อังกฤษมีสภาพที่ดีขึ้น และการทำให้อังกฤษมีความเป็นระดับโลกอย่างแท้จริง

นายกฯอังกฤษกล่าวว่า เธอต้องการให้อังกฤษเป็น "มิตรและเพื่อนบ้านที่ดีที่สุด" ของยุโรปต่อไป แต่ก็จะทำการค้ากับประเทศอื่นๆ อย่าง จีน บราซิล และกลุ่มประเทศอ่าวอาหรับด้วยเช่นกัน

อย่างไรก็ดี เธอยืนยันว่า ข้อตกลง Brexit ขั้นสุดท้ายจะต้องผ่านการลงมติในรัฐสภา

นักวิเคราะห์กล่าวว่า มีการคาดการณ์ก่อนหน้านี้ว่าถ้อยแถลงของนางเมย์จะส่งผลกระทบต่อตลาด ซึ่งเธอก็สามารถจัดการกับการคาดการณ์ดังกล่าวและแถลงออกมาได้ดี

สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐที่มีการเปิดเผยวานนี้ ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขานิวยอร์ก รายงานว่า ดัชนีภาคการผลิต (Empire State Index) มีการขยายตัวเป็นเดือนที่ 3 ในเดือนม.ค. ขณะที่ได้แรงหนุนจากการทะยานขึ้นของคำสั่งซื้อใหม่

โดยดัชนีภาคการผลิตอยู่ที่ระดับ 6.5 ในเดือนม.ค. จากระดับ 7.6 ในเดือนธ.ค. ซึ่งดัชนีที่อยู่เหนือระดับ 0 บ่งชี้ถึงภาวะขยายตัว

ในส่วนของข่าวคราวความเคลื่อนไหวในภาคธุรกิจนั้น หุ้นมอร์แกน สแตนลีย์ ร่วง 3.79% แม้ธนาคารรายงานผลประกอบการรายไตรมาสที่ดีเกินคาดก็ตาม

หุ้นบริติช อเมริกัน โทแบคโค (BAT) ร่วง 3.83% ขณะที่หุ้นเรย์โนลด์ อเมริกัน อิงค์ บวก 3.06% หลังบริษัทบริติช อเมริกัน โทแบคโค ประกาศซื้อกิจการของบริษัทเรย์โนลด์ อเมริกัน อิงค์ ในข้อตกลงวงเงิน 4.9 หมื่นล้านดอลลาร์ที่จะสร้างบริษัทบุหรี่จดทะเบียนที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก

ทั้งนี้ BAT จะเข้าซื้อหุ้น 57.8% ของเรย์โนลด์ที่ทางบริษัทยังไม่ได้ถือครอง โดยผู้ถือหุ้นเรย์โนลด์จะได้รับเงินสด 29.44 ดอลลาร์/หุ้น รวมทั้งได้รับหุ้น BAT จำนวน 0.5260 หุ้น ข้อตกลงดังกล่าวจะรวมกิจการของ BAT ในประเทศกำลังพัฒนา ซึ่งการรณรงค์ต่อต้านการสูบบุหรี่ยังไม่เข้มแข็งเท่ากับในสหรัฐและยุโรป เข้ากับกิจการของเรย์โนลด์ ซึ่งเน้นหนักในการดำเนินธุรกิจในสหรัฐ


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ