ตลาดหุ้นนิวยอร์กร่วงลงในวันนี้ ขณะที่ดัชนีดาวโจนส์ปรับตัวลงเป็นวันที่ 6 ในรอบ 7 วันทำการ โดยตลาดได้รับปัจจัยบวกจากการเปิดเผยผลประกอบการของโกลด์แมน แซคส์ที่ดีกว่าคาด แต่ตัวเลขเงินเฟ้อของสหรัฐที่พุ่งขึ้นก็ทำให้นักลงทุนกังวลต่อการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด)
ขณะเดียวกัน ราคาน้ำมันที่ดิ่งลงเกือบ 2% ก็เป็นอีกปัจจัยที่กดดันตลาด
นักลงทุนจับตาการกล่าวสุนทรพจน์ของนางเจเน็ต เยลเลน ประธานเฟด ในวันนี้ รวมทั้งการสาบานตนรับตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐของนายโดนัลด์ ทรัมป์ ในวันศุกร์นี้
ณ เวลา 21.40 น.ตามเวลาไทย ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์อยู่ที่ 19,751.14 จุด ลดลง 76.56 จุด หรือ 0.37% ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 6 สัปดาห์
หุ้นกลุ่มพลังงานดิ่งลงตามราคาน้ำมันที่ร่วงลง
ขณะนี้ ดัชนีดาวโจนส์ทรุดตัวลง 1% เมื่อเทียบกับระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ทำไว้เมื่อวันที่ 6 ม.ค.
กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ปรับตัวขึ้น 0.3% ในเดือนธ.ค. หลังจากเพิ่มขึ้น 0.2% ในเดือนพ.ย. โดยได้แรงหนุนจากราคาน้ำมัน และค่าเช่าบ้านที่เพิ่มขึ้น
เมื่อเทียบรายปี ดัชนี CPI พุ่งขึ้น 2.1% ในเดือนธ.ค. ซึ่งสูงกว่าระดับเป้าหมายที่ 2% ของเฟด และเป็นการเพิ่มขึ้นรายปีมากที่สุดนับตั้งแต่เดือนมิ.ย.2014 และเป็นครั้งแรกที่ดัชนี CPI พุ่งทะลุ 2% นับตั้งแต่ปี 2014 หลังจากเพิ่มขึ้น 1.7% ในเดือนพ.ย.
ดัชนี CPI ดังกล่าวบ่งชี้ถึงเงินเฟ้อที่ปรับตัวขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งจะส่งผลให้เฟดเดินหน้าปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปีนี้
ทางด้านโกลด์แมน แซคส์ เปิดเผยว่า ทางธนาคารมีกำไร และรายได้ในไตรมาส 4 สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้
ทั้งนี้ โกลด์แมน แซคส์ ระบุว่า ธนาคารมีกำไรที่ระดับ 5.08 ดอลลาร์/หุ้น สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 4.82 ดอลลาร์/หุ้น
นอกจากนี้ โกลด์แมน แซคส์ เปิดเผยว่า ธนาคารมีรายได้ 8.17 พันล้านดอลลาร์ สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 7.74 พันล้านดอลลาร์
โกลด์แมน แซคส์ ระบุว่า กำไร และรายได้ที่ทะยานขึ้นดังกล่าว ได้รับปัจจัยหนุนจากรายได้จากการซื้อขายตราสารหนี้ ขณะที่ค่าใช้จ่ายในการดำเนินกิจการอยู่ที่ระดับต่ำสุดนับตั้งแต่ปี 2008
ซิตี้กรุ๊ป เปิดเผยว่า ทางธนาคารมีกำไรในไตรมาส 4 สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ แต่รายได้ต่ำกว่าคาด
ทั้งนี้ ซิตี้กรุ๊ประบุว่า ธนาคารมีรายได้ 1.701 หมื่นล้านดอลลาร์ และกำไร 1.14 ดอลลาร์/หุ้น ขณะที่นักวิเคราะห์คาดการณ์รายได้ที่ระดับ 1.705 หมื่นล้านดอลลาร์ และกำไร 1.11 ดอลลาร์/หุ้น