ตลาดหุ้นนิวยอร์กปรับตัวลงเล็กน้อยในวันนี้ แต่ยังได้แรงหนุนจากการที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ จัดการประชุมกับผู้บริหารของภาคการผลิตสหรัฐ พร้อมกับให้สัญญาว่าจะแก้ไขกฎระเบียบเพื่อเอื้อประโยชน์ต่อบริษัทดังกล่าว
ณ เวลา 22.03 น.ตามเวลาไทย ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์อยู่ที่ 19,805.57 จุด ลดลง 22.56 จุด หรือ 0.12%
หุ้นกลุ่มพลังงานดิ่งลงนำตลาดวันนี้ ตามราคาน้ำมันที่ร่วงลงกว่า 1%
หุ้นแมคโดนัลด์ทรุดตัวลงมากที่สุดในช่วงแรก แม้รายงานตัวเลขกำไร และรายได้ประจำไตรมาส 4 สูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์
ทั้งนี้ แมคโดนัลด์เปิดเผยว่า ทางบริษัทมีกำไรต่อหุ้นที่ระดับ 1.44 ดอลลาร์ สูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ที่ 1.41 ดอลลาร์
นอกจากนี้ ทางบริษัทมีรายได้ที่ระดับ 6.03 พันล้านดอลลาร์ สูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ที่ 5.99 พันล้านดอลลาร์
ปธน.ทรัมป์เรียกร้องให้บริษัทต่างๆกลับเข้ามาผลิตสินค้าในสหรัฐ ซึ่งเขาให้สัญญาว่าจะแก้ไขกฎระเบียบเพื่อเอื้อประโยชน์ต่อบริษัทดังกล่าว
ปธน.ทรัมป์ระบุว่า เขาต้องการลดกฎระเบียบต่างๆลงถึง 75% หรือมากกว่า เพื่อช่วยเหลือภาคธุรกิจ เนื่องจากขณะนี้มีกฎระเบียบต่างๆมากเกินไป จนทำให้เป็นอุปสรรคต่อการทำการค้า
ผู้นำสหรัฐยังกล่าวว่า เขาจะปรับลดภาษีจำนวนมากสำหรับชนชั้นกลาง และบริษัทเอกชน
ปธน.ทรัมป์ยังกล่าวว่า เขาต้องการให้บริษัทสหรัฐทำการผลิตสินค้าอีกครั้งหนึ่ง ซึ่งเขาคิดว่าการผลิตสินค้าในสหรัฐจะใช้ต้นทุนต่ำกว่าการผลิตในต่างประเทศ และมีการส่งกลับมาจำหน่ายในสหรัฐ
ขณะเดียวกัน ปธน.ทรัมป์ยังเสนอมาตรการจูงใจต่อภาคธุรกิจ โดยระบุว่า รัฐบาลสหรัฐจะให้การอนุมัติอย่างรวดเร็ว หากบริษัทใดๆต้องการสร้างโรงงานแห่งใหม่
ปธน.ทรัมป์ระบุว่า เขาต้องการจะจัดการประชุมกับผู้นำในภาคธุรกิจในเวลาใดก็ตามที่เขาต้องการพบปะผู้บริหารเหล่านี้ โดยอาจเป็นการประชุมรายไตรมาส
นอกจากนี้ เขายังขู่ว่าบริษัทต่างๆที่ย้ายฐานการผลิตออกนอกสหรัฐจะถูกเรียกเก็บภาษีนำเข้าในระดับสูง
ทางด้านแหล่งข่าวจากทำเนียบขาวระบุว่า ปธน.ทรัมป์อาจลงนามในคำสั่งประธานาธิบดีในวันนี้ เพื่อให้สหรัฐทำการเจรจาครั้งใหม่ต่อข้อตกลงการค้าเสรีอเมริกาเหนือ (นาฟต้า) กับแคนาดาและเม็กซิโก รวมทั้งถอนตัวออกจากข้อตกลงการค้าเสรีหุ้นส่วนยุทธศาสตร์เศรษฐกิจภาคพื้นแปซิฟิค (TPP)
ทั้งนี้ หมายกำหนดการทำงานของปธน.ทรัมป์ระบุว่า เขาจะลงนามคำสั่งประธานาธิบดีในห้องทำงานรูปไข่ในวันนี้ เวลา 10.30 น.ตามเวลาสหรัฐ หรือ 22.30 น.ตามเวลาไทย
ปธน.ทรัมป์กล่าวก่อนหน้านี้ว่า เขามีแผนเจรจากับผู้นำแคนาดาและเม็กซิโกเพื่อทบทวนข้อตกลงนาฟต้า เพื่อไม่ให้สหรัฐเสียเปรียบในการทำการค้า
นอกจากนี้ ในการกล่าวสุนทรพจน์หลังการสาบานตนรับตำแหน่งในวันศุกร์ เขาได้เน้นนโยบาย "อเมริกาต้องมาก่อน" โดยการตัดสินใจด้านการค้า ภาษี ประเด็นคนเข้าเมือง และกิจการต่างประเทศ จะต้องเอื้อประโยชน์ต่อแรงงานชาวสหรัฐและครอบครัวชาวอเมริกัน