ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กอ่อนตัวลงเล็กน้อยในวันนี้ หลังจากพุ่งแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์เมื่อวานนี้ ขณะที่นักลงทุนจับตานางเจเน็ต เยลเลน ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ซึ่งจะกล่าวถ้อยแถลงรอบครึ่งปีต่อสภาคองเกรสในวันนี้ และพรุ่งนี้ ทั้งนี้ นางเยลเลนจะกล่าวถ้อยแถลงต่อคณะกรรมาธิการการธนาคารประจำวุฒิสภาในวันนี้ เวลา 10.00 น.ตามเวลาสหรัฐ หรือ 22.00 น.ตามเวลาไทย ก่อนที่จะกล่าวต่อคณะกรรมาธิการบริการการเงินประจำสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐในวันพรุ่งนี้
ณ เวลา 21.41 น.ตามเวลาไทย ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์อยู่ที่ 20,407.43 จุด ลดลง 4.73 จุด หรือ 0.02%
หุ้นกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ดิ่งลงนำตลาดวันนี้ ขณะที่กลุ่มการเงินดีดตัวสวนตลาด
หุ้น IBM ร่วงลงมากที่สุดในการซื้อขายช่วงแรก
ดัชนี S&P 500 ปรับตัวลงในวันนี้เป็นครั้งแรกในรอบ 6 วัน หลังจากที่เมื่อวานนี้ทำสถิติมีมูลค่าตลาดสูงเป็นประวัติการณ์กว่า 20 ล้านล้านดอลลาร์
นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า ตลาดหุ้นวอลล์สตรีทจะปรับตัวขึ้นต่อไปในวันนี้และพรุ่งนี้ระหว่างที่นางเยลเลนกล่าวถ้อยแถลงรอบครึ่งปีต่อสภาคองเกรส
ผลการศึกษาการปรับตัวของตลาดหุ้นสหรัฐในช่วงที่ผ่านมา พบว่า ดัชนี S&P 500 ของตลาดหุ้นวอลล์สตรีทมักจะปรับตัวขึ้นในช่วง 2 วันที่นางเยลเลนกล่าวถ้อยแถลงต่อสภาคองเกรส โดยหุ้นกลุ่มธนาคารจะปรับตัวอย่างโดดเด่น
คาดว่านางเยลเลนจะกล่าวถึงภาวะเศรษฐกิจสหรัฐ และอาจมีการส่งสัญญาณถึงการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปีนี้ ขณะที่คณะกรรมาธิการของสภาคองเกรส ซึ่งพรรครีพับลิกันครองเสียงข้างมาก จะซักถามนางเยลเลนเกี่ยวกับบทบาทของเฟดภายใต้การบริหารงานของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ รวมทั้งความเห็นของนางเยลเลนต่อการที่รัฐบาลของปธน.ทรัมป์มีแนวโน้มที่จะทบทวนกฏหมายดอดด์-แฟรงค์ ซึ่งเป็นกฏหมายที่รัฐบาลของปธน.บารัค โอบามา เคยใช้กู้วิกฤตการณ์ทางการเงินในอดีต
นายทรัมป์เคยกล่าวโจมตีนางเยลเลนในระหว่างหาเสียงเลือกตั้ง โดยกล่าวว่าเฟดได้จงใจตรึงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับต่ำโดยหวังให้ตลาดหุ้นพุ่งขึ้นเพื่อเอื้อประโยชน์ต่อรัฐบาลของปธน.โอบามา
นายทรัมป์กล่าวหานางเยลเลนว่าได้ตรึงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ระดับต่ำโดยมีวาระซ่อนเร้นทางการเมือง และเธอควรมีความละอายแก่ใจ
ขณะเดียวกัน มีการคาดการณ์กันว่า ปธน.ทรัมป์อาจแทรกแซงการกำกับนโยบายของเฟด ด้วยการแต่งตั้งกรรมการเฟดคนใหม่อีก 2 คนสำหรับตำแหน่งที่ว่างอยู่ในขณะนี้ รวมทั้งแต่งตั้งประธานเฟดคนใหม่ หลังจากที่นางเยลเลน ประธานเฟดคนปัจจุบัน ครบวาระการดำรงตำแหน่งในปี 2018
กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า ดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) เพิ่มขึ้น 0.6% ในเดือนม.ค.เมื่อเทียบรายเดือน ซึ่งสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 0.3% และเป็นการปรับตัวขึ้นมากที่สุดนับตั้งแต่เดือนก.ย.2012 โดยได้แรงหนุนจากราคาน้ำมันที่พุ่งขึ้น ขณะที่ราคาอาหารทรงตัว
เมื่อเทียบรายปี ดัชนี PPI พุ่งขึ้น 1.6% ในเดือนม.ค. ซึ่งสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 1.5%
หากไม่นับรวมราคาน้ำมัน และอาหาร ดัชนี PPI พื้นฐานปรับตัวขึ้น 0.2% ในเดือนม.ค. เมื่อเทียบรายเดือน และ 1.6% เมื่อเทียบรายปี