ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์กดาวโจนส์ปิดพุ่ง 107.45 จุด รับ"ทรัมป์"ย้ำลดภาษี,ข้อมูลศก.สดใส

ข่าวหุ้น-การเงิน Thursday February 16, 2017 06:36 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นเมื่อคืนนี้ (15 ก.พ.) โดยดัชนีหลักทั้ง 3 ดัชนีทำสถิติปิดที่ระดับสูงสุดติดต่อกันเป็นวันที่ 5 ขานรับประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ที่ให้คำมั่นว่าจะดำเนินการปรับลดภาษีและลดกฎระเบียบในภาคอุตสาหกรรม นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงหนุนจากข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งของสหรัฐ และถ้อยแถลงในวันที่สองของนางเจเน็ต เยลเลน ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ที่ได้แสดงมุมมองเป็นบวกต่อเศรษฐกิจสหรัฐ

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 20,611.86 จุด พุ่งขึ้น 107.45 จุด หรือ +0.52% ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 5,819.44 จุด เพิ่มขึ้น 36.87 จุด หรือ +0.64% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,349.25 จุด เพิ่มขึ้น 11.67 จุด หรือ +0.50%

ตลาดหุ้นนิวยอร์กได้รับแรงหนุนหลังจากประธานาธิบดีทรัมป์ได้จัดการประชุมร่วมกับผู้บริหารของกลุ่มบริษัทค้าปลีกที่ทำเนียบขาวเมื่อวานนี้ โดยเขาให้คำมั่นที่จะปรับลดภาษี และจะปรับลดกฎระเบียบทั่วภาคอุตสาหกรรม เนื่องจากกฎระเบียบดังกล่าวได้ทำให้เกิดค่าใช้จ่ายจำนวนมากต่อภาคธุรกิจ

ปธน.ทรัมป์ระบุว่า เขาจะลดกฎระเบียบเพื่อให้เกิดการสร้างงาน โดยการปฏิรูปภาษีถือเป็นหนึ่งในโอกาสดีที่สุดที่จะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจสหรัฐ พร้อมระบุว่า การจัดเตรียมแผนการด้านภาษีของรัฐบาลกำลังเป็นไปด้วยดี และจะมีการประกาศออกมาในไม่ช้า

ตลาดยังขานรับนางเยลเลนที่ได้ได้เข้าแถลงต่อคณะกรรมาธิการบริการการเงินประจำสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐเมื่อวานนี้ ซึ่งเธอยังคงแสดงมุมมองที่เป็นบวกต่อเศรษฐกิจว่า เศรษฐกิจสหรัฐฟื้นตัวขึ้นเร็วกว่าทางยุโรป ขณะที่เฟดได้ใช้กฎระเบียบที่เข้มงวดขึ้น ซึ่งช่วยปกป้องสถาบันการเงิน และหนุนการขยายตัวของเศรษฐกิจสหรัฐ

ในการแถลงวันที่สองนี้ ประธานเฟดยังคงส่งสัญญาณการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย เช่นเดียวกับในการแถลงวันแรกต่อคณะกรรมาธิการการธนาคารประจำวุฒิสภาเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา

นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงหนุนจากข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งของสหรัฐ โดยกระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ยอดค้าปลีกเดือนม.ค.ปรับตัวขึ้น 0.4% ในเดือนม.ค. เมื่อเทียบรายเดือน ซึ่งสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะขยับขึ้นเพียง 0.1%

กระทรวงพาณิชย์สหรัฐยังระบุด้วยว่า สต็อกสินค้าคงคลังภาคธุรกิจเดือนธ.ค.เพิ่มขึ้น 0.4% ขณะที่ยอดขายในภาคธุรกิจพุ่งขึ้น 2% ซึ่งเป็นระดับสูงที่สุดนับตั้งแต่เดือนมี.ค.2011

ทางด้านกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ดัชนี CPI พุ่งขึ้น 0.6% ในเดือนม.ค. ซึ่งเป็นการเพิ่มขึ้นมากที่สุดในรอบ 4 ปี ส่วนดัชนี CPI พื้นฐานซึ่งไม่นับรวมราคาในหมวดอาหารและพลังงาน ปรับตัวขึ้น 0.3%

หุ้นกลุ่มสายการบินพุ่งขึ้น หลังจากมีรายงานว่าบริษัทเบิร์กเชียร์ แฮทาเวย์ ของนายวอร์เรน บัฟเฟตต์ ได้เพิ่มการถือครองหุ้นในสายการบินหลายแห่ง โดยหุ้นเซาท์เวสต์ แอร์ไลน์ส พุ่งขึ้น 3.6% หุ้นยูไนเต็ด คอนติเนนตัล ปรับขึ้น 2.7% หุ้นเดลต้า แอร์ไลน์ส พุ่งขึ้น 2.6% และหุ้นอเมริกัน แอร์ไลน์ส ทะยานขึ้น 2.1%

หุ้นแอปเปิล ปรับตัวขึ้น 0.4% หลังจากนายบัฟเฟตต์ได้เพิ่มการถือครองหุ้นในบริษัทแอปเปิล อิงค์ เช่นกัน โดยรายงานระบุว่า หากราคาหุ้นแอปเปิลปรับตัวขึ้นอย่างต่อเนื่อง มูลค่าหุ้นแอปเปิลที่นายบัฟเฟตต์ถือครองอยู่นั้น อาจจะเพิ่มขึ้น 1.1 พันล้านดอลลาร์ จากระดับที่เขาถือครองในช่วงหกสัปดาห์ที่ผ่านมา

หุ้นฟอร์เทรส อินเวสท์เมนท์ ทะยานขึ้น 29% หลังจากมีรายงานว่า บริษัทซอฟท์แบงค์ ผู้ให้บริการโทรคมนาคมสัญชาติญี่ปุ่น เตรียมเข้าซื้อกิจการฟอร์เทรส อินเวสท์เมนท์ กรุ๊ป ซึ่งเป็นบริษัทเพื่อการลงทุนสัญชาติอเมริกัน คิดเป็นมูลค่าราว 3.3 พันล้านดอลลาร์

อย่างไรก็ตาม หุ้นอเมริกัน อินเตอร์เนชั่นแนล กรุ๊ป อิงค์ (AIG) บริษัทประกันรายใหญ่ ร่วงลง 9% หลังจากบริษัทเปิดเผยตัวเลขขาดทุน 3.04 พันล้านดอลลาร์ หรือ 2.96 ดอลลาร์ต่อหุ้น ในไตรมาสที่ 4 ของปี 2559 โดยสาเหตุหลักนั้นมาจากการตั้งสำรองสินไหมเป็นวงเงินสูงถึง 5.6 พันล้านดอลลาร์

หุ้นเป๊ปซี่โค ปรับตัวลง 0.4% หลังจากบริษัทเปิดเผยตัวเลขกำไร 1.40 พันล้านดอลลาร์ในไตรมาส 4 หรือ 0.97 ดอลลาร์/หุ้น ลดลงจากช่วงเดียวกันของปี 2015 ซึ่งอยู่ที่ 1.72 พันล้านดอลลาร์ หรือ 1.17 ดอลลาร์/หุ้น โดยมีสาเหตุจากค่าใช้จ่ายในการยุติคดีที่เกี่ยวข้องกับโครงการบำนาญ และการชำระหนี้

นักลงทุนจับตาข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐในสัปดาห์นี้ ซึ่งได้แก่ ตัวเลขการเริ่มสร้างบ้านและการอนุญาตก่อสร้างเดือนม.ค., จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ และดัชนีชี้นำเศรษฐกิจสหรัฐเดือนม.ค.โดย Conference Board


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ