ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์กดาวโจนส์ปิดบวก 34.72 จุด รับ "ทรัมป์" ให้คำมั่นกระตุ้นจ้างงาน

ข่าวหุ้น-การเงิน Friday February 24, 2017 06:13 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (23 ก.พ.) โดยดาวโจนส์ปิดที่ระดับสูงสุดติดต่อกันเป็นวันที่ 10 หลังจากมีรายงานว่า ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ได้ให้คำมั่นกับบรรดาผู้บริหารบริษัทขนาดใหญ่ของสหรัฐที่ได้รับเชิญให้เข้าร่วมหารือที่ทำเนียบขาวว่า เขาจะนำการจ้างงานหลายล้านตำแหน่งกลับสู่สหรัฐ นอกจากนี้ ตลาดยังได้แรงหนุนหลังจากนายสตีเวน มนูชิน รัฐมนตรีคลังสหรัฐ เปิดเผยว่า เขาจะผลักดันให้กฎหมายปฏิรูปภาษีผ่านสภาคองเกรสก่อนจะปิดสมัยประชุมสภาในเดือนส.ค.

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 20,810.32 จุด เพิ่มขึ้น 34.72 จุด หรือ +0.17% ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 5,835.51 จุด ลดลง 25.12 จุด หรือ -0.43% และดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,363.81 จุด เพิ่มขึ้น 0.99 จุด หรือ +0.04%

ตลาดหุ้นนิวยอร์กได้รับแรงหนุนจากข่าวที่ว่าประธานาธิบดีทรัมป์ได้จัดการประชุมร่วมกับผู้บริหารบริษัทขนาดใหญ่ของสหรัฐกว่า 20 แห่งเมื่อวานนี้ เพื่อหารือเกี่ยวกับอุปสรรคในการสร้างงานในสหรัฐ โดยในการประชุมครั้งนี้ ทรัมป์ให้คำมั่นว่าเขาจะนำการจ้างงานหลายล้านตำแหน่งกลับสู่สหรัฐ

ในบรรดาผู้บริหารที่เข้าประชุมกับทรัมป์ครั้งนี้ ส่วนหนึ่งเป็นผู้บริหารของบริษัทล็อคฮีท มาร์ติน, ดาว เคมีคัล, ฟอร์ด มอเตอร์ และแคเตอร์พิลลาร์ อิงค์

ขณะเดียวกันตลาดยังขานรับรัฐมนตรีคลังสหรัฐที่ให้คำมั่นว่าจะผลักดันให้กฎหมายปฏิรูปภาษีผ่านสภาคองเกรสก่อนจะปิดสมัยประชุมสภาในเดือนส.ค.

ทั้งนี้ นายมนูชินกล่าวต่อสำนักข่าว CNBC ว่า รัฐบาลพุ่งเป้าการปรับลดภาษีสำหรับชนชั้นกลาง และจะปฏิรูปภาษีให้มีความเรียบง่ายขึ้นสำหรับภาคธุรกิจ พร้อมระบุว่า หากมีการปรับลดภาษีสำหรับคนรวย รัฐบาลก็จะมีการออกมาตรการปิดช่องโหว่ที่จะเอื้อประโยชน์แก่คนกลุ่มดังกล่าวเช่นกัน โดยจะมีการลดการหักลดหย่อนภาษี และสิทธิประโยชน์อื่นๆ

นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับปัจจัยหนุนจากมุมมองที่ว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะยังไม่ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนมี.ค. เมื่อพิจารณาจากรายงานการประชุมประจำวันที่ 31 ม.ค. - 1 ก.พ. ซึ่งเฟดมีความระมัดระวังที่จะระบุถึงกำหนดเวลาในการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยครั้งต่อไป

หุ้นกลุ่มพลังงานดีดตัวขึ้น หลังจากราคาน้ำมันดิบฟื้นตัวขึ้นเมื่อคืนนี้ โดยหุ้นเอ็กซอน โมบิล พุ่งขึ้น 1.1% หุ้นทรานส์โอเชียน ทะยานขึ้น 7.8% และหุ้นวาเลโร เอ็นเนอร์จี ดีดขึ้น 1.6%

หุ้นฮิวเล็ตต์-แพคการ์ด (HP) พุ่งขึ้น 8.6% หลังจากบริษัทเปิดเผยผลประกอบการที่ดีเกินคาด

หุ้นแอล แบรนด์ ซึ่งเป็นเจ้าของแบรนด์ Victoria`s Secret และ Bath & Body Works ร่วงลงอย่างหนักถึง 15.8% หลังจากบริษัทเปิดเผยยอดขายเดือนก.พ.ที่ลดลง โดยเฉพาะอย่างยิ่งแบรนด์ชุดชั้นใน Victoria`s Secret

ตลาดได้รับแรงกดดันในระหว่างวันจากข้อมูลแรงงานที่อ่อนแอของสหรัฐ โดยกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า จำนวนชาวอเมริกันที่ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกเพิ่มขึ้นมากกว่าคาดในสัปดาห์ที่แล้ว โดยปรับตัวขึ้น 6,000 ราย สู่ระดับ 244,000 ราย ขณะที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ก่อนหน้านี้ว่าจำนวนชาวอเมริกันที่ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกจะเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 241,000 รายในสัปดาห์ที่แล้ว นักลงทุนจับตาข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐในวันนี้ ซึ่งได้แก่ ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนม.ค.จากมหาวิทยาลัยมิชิแกน และยอดขายบ้านใหม่เดือนม.ค.


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ