ภาวะตลาดหุ้นยุโรป: หุ้นยุโรปปิดลบ หลัง"ทรัมป์"คว้าน้ำเหลวผลักดัน"อเมริกันเฮลธ์แคร์"

ข่าวหุ้น-การเงิน Tuesday March 28, 2017 06:26 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ตลาดหุ้นยุโรปปิดลบเมื่อคืนนี้ (27 มี.ค.) หลังจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ไม่สามารถผลักดันร่างกฎหมายประกันสุขภาพ "อเมริกันเฮลธ์แคร์" ให้ผ่านสภาผู้แทนราษฎรได้ ซึ่งส่งผลให้นักลงทุนไม่มั่นใจว่า รัฐบาลสหรัฐภายใต้การนำของปธน.ทรัมป์จะสามารถผลักดันมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจให้มีผลบังคับใช้ได้หรือไม่

ดัชนี Stoxx Europe 600 ปรับตัวลง 0.4% ปิดที่ 375.01 จุด

ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 5,017.43 จุด ลดลง 3.47 จุด หรือ -0.07% ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 11,996.07 จุด ลดลง 68.20 จุด หรือ -0.57% และดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,293.50 จุด ลดลง 43.32 จุด หรือ -0.59%

ตลาดหุ้นยุโรปปิดอ่อนแรงลง หลังจากที่ปธน.ทรัมป์ไม่สามารถผลักดันร่างกฎหมายประกันสุขภาพ "อเมริกันเฮลธ์แคร์" ให้ผ่านความเห็นชอบจากสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ทั้งนี้ การที่พรรครีพับลิกันต้องยอมถอนร่างกฎหมาย "อเมริกันเฮลธ์แคร์" ซึ่งจะนำมาแทนกฎหมายประกันสุขภาพ "Affordable Care Act (ACA)" หรือ "โอบามาแคร์" ออกจากสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐนั้น ถือเป็นความล้มเหลวครั้งใหญ่ครั้งแรกในสภานิติบัญญัติของปธน.ทรัมป์ นับตั้งแต่ที่เขาเข้ารับตำแหน่งเมื่อวันที่ 20 ม.ค. และยังส่งผลให้เกิดการตั้งคำถามถึงความสามารถของปธน.ทรัมป์ในการเดินหน้าผลักดันนโยบายอื่นๆ ซึ่งรวมถึงการปฏิรูปภาษี และการใช้จ่ายงบประมาณในโครงการสาธารณูปโภค ตามที่เขาได้เคยให้คำมั่นสัญญาไว้ในระหว่างการรณรงค์หาเสียงเลือกตั้ง

หุ้นกลุ่มธนาคารร่วงลง โดยหุ้นลอยด์ แบงกิ้ง ร่วงลง 1.6% หุ้นยูบีเอส กรุ๊ป ปรับตัวลง 0.6% หุ้นดอยซ์แบงก์ ขยับลง 0.2% และหุ้นโซซิเอเต เจเนอราล (ซอคเจน) ปรับตัวลง 0.4%

หุ้นกลุ่มพลังงานและเหมืองแร่ ร่วงลงเช่นกัน โดยหุ้นเกลนคอร์ รีซอสเซส ดิ่งลง 4.4% และหุ้นรอยัล ดัทช์ เชลล์ ปรับตัวลง 0.3%

อย่างไรก็ตาม ตลาดหุ้นยุโรปได้รับแรงหนุนในระหว่างวัน หลังจาก Ifo ซึ่งเป็นสถาบันวิจัยเศรษฐกิจของเยอรมนี เปิดเผยว่า ดัชนีความเชื่อมั่นภาคธุรกิจของเยอรมนีเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 112.3 ในเดือนมี.ค. สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ว่า จะอยู่ที่ระดับ 111.1 และสูงกว่าสถิติเดือนก.พ.ที่ระดับ 111.0 ผลสำรวจความเชื่อมั่นล่าสุดนี้สะท้อนให้เห็นว่า เศรษฐกิจเยอรมนียังคงมีแรงขับเคลื่อน และคาดว่าจะยังคงเดินหน้าต่อไปตามการคาดการณ์ของธนาคารกลางเยอรมนี โดยได้รับแรงหนุนจากภาคการผลิตและบริการ แม้ว่าอาจได้รับความเสี่ยงจากสถานการณ์ในต่างประเทศ ไม่ว่าจะเป็นสหรัฐ อังกฤษ และฝรั่งเศส


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ