ดาวโจนส์ฟื้นตัวหลังเปิดตลาดร่วง ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐสดใสหนุนตลาด

ตลาดหุ้นนิวยอร์กเปิดแดนลบในวันนี้ แต่ดัชนีดาวโจนส์สามารถฟื้นตัวขึ้นในแดนบวกในเวลาต่อมา โดยได้แรงหนุนจากการเปิดเผยตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐที่สดใส

หากดัชนีดาวโจนส์ปิดตลาดในแดนลบวันนี้ ก็จะเป็นการร่วงลงติดต่อกันเป็นวันที่ 9 ซึ่งจะเป็นช่วงขาลงที่ยาวนานที่สุดนับตั้งแต่ปี 1978

ณ เวลา 21.09 น.ตามเวลาไทย ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์อยู่ที่ 20,582.82 จุด บวก 31.84 จุด หรือ 0.15%

หุ้นกลุ่มการเงินดีดตัวขึ้นนำตลาดวันนี้ ขณะที่หุ้นโกลด์แมน แซคส์พุ่งขึ้นมากที่สุดในการซื้อขายช่วงแรก

ผลสำรวจของสแตนดาร์ด แอนด์ พัวร์/เคส ชิลเลอร์ระบุว่า ราคาบ้านในสหรัฐพุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 31 เดือนในเดือนม.ค. โดยได้แรงหนุนจากสต็อกบ้านที่อยู่ในระดับต่ำ และการที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างค่อยเป็นค่อยไป

ทั้งนี้ ดัชนีราคาบ้านทั่วประเทศในสหรัฐ พุ่งขึ้น 5.9% ในเดือนม.ค. เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้านี้ จากระดับ 5.7% ในเดือนธ.ค.

ส่วนดัชนีราคาบ้านใน 20 เมืองของสหรัฐ เพิ่มขึ้น 5.7% ในเดือนม.ค. หลังจากเพิ่มขึ้น 5.5% ในเดือนธ.ค.

ราคาบ้านเพิ่มขึ้นสูงสุดในเมืองซีแอตเติล, พอร์ทแลนด์ และเดนเวอร์

อย่างไรก็ดี นักลงทุนยังคงกังวลต่อการที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ไม่สามารถผลักดันร่างกฎหมายประกันสุขภาพ "อเมริกันเฮลธ์แคร์" ให้ผ่านความเห็นชอบจากสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐ ซึ่งจะกระทบต่อนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจอื่นๆของปธน.ทรัมป์ เช่น การปฏิรูปภาษี และการใช้จ่ายงบประมาณจำนวนมากในโครงการสาธารณูปโภค

ดัชนีดาวโจนส์ได้ทะยานขึ้นมากกว่า 12% นับตั้งแต่นายทรัมป์ชนะการเลือกตั้งในวันที่ 8 พ.ย.ปีที่แล้ว จากความหวังที่ว่าเขาจะออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจขนานใหญ่

นักลงทุนจับตาการกล่าวสุนทรพจน์ของนางเจเน็ต เยลเลน ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในวันนี้ เวลา 17.50 น. ตามเวลาสหรัฐ หรือตรงกับพรุ่งนี้เช้าเวลา 04.50 น.ตามเวลาไทย ในหัวข้อ "Addressing Workforce Development Challenges" หรือ "การรับมือการท้าทายด้านการพัฒนาแรงงาน" เพื่อหาสัญญาณบ่งชี้เกี่ยวกับการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยครั้งต่อไปในปีนี้

ส่วนนายสแตนลีย์ ฟิสเชอร์ รองประธานเฟด มีกำหนดให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าว CNBC ในเวลา 13.30 น.ตามเวลาสหรัฐ หรือคืนนี้เวลา 00.30 น.ตามเวลาไทย