ตลาดหุ้นยุโรปปิดบวกเมื่อคืนนี้ (31 มี.ค.) หลังนักลงทุนซึมซับข่าวอังกฤษเริ่มต้นกระบวนการถอนตัวออกจากสหภาพยุโรป (Brexit) อย่างเป็นทางการ
ดัชนี Stoxx Europe 600 เพิ่มขึ้น 0.2% ปิดที่ 381.14
สำหรับไตรมาสแรก ดัชนี Stoxx Europe 600 ทะยานขึ้น 5.5% ซึ่งถือว่ามากที่สุดนับตั้งแต่เดือนมี.ค. 2558 และเพิ่มขึ้นเป็นไตรมาสที่ 3 ติดต่อกัน
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดวันทำการล่าสุดที่ 5,122.51 จุด เพิ่มขึ้น 32.87 จุด หรือ 0.65% ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดวันทำการล่าสุดที่ 12,312.87 จุด เพิ่มขึ้น 56.44 จุด หรือ 0.46% ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดวันทำการล่าสุดที่ 7,322.92 จุด ลดลง 46.60 จุด หรือ 0.63%
เมื่อวานนี้ นายโดนัลด์ ทัสค์ ประธานคณะมนตรียุโรป กล่าวว่า สมาชิกสหภาพยุโรป (EU) ที่ยังคงเหลืออยู่ 27 อีกประเทศ จะไม่ใช้วิธีการที่ตอกย้ำถึงการลงโทษต่อกรณีที่อังกฤษถอนตัวออกจาก EU ในการเจรจาที่กำลังจะจัดขึ้น เพื่อหาทางเดินหน้าต่อไป
ขณะเดียวกัน เจ้าหน้าที่ EU รายหนึ่งกล่าวว่า จำเป็นต้องใช้เวลามากกว่า 2 ปีในการเจรจารายละเอียดทั้งหมดของการที่อังกฤษจะแยกตัวออกจาก EU
ด้านข้อมูลเศรษฐกิจนั้น สำนักงานสถิติแห่งสหภาพยุโรป (ยูโรสแตท) เปิดเผยว่า อัตราเงินเฟ้อในยูโรโซนอยู่ที่ระดับ 1.5% ในเดือนมี.ค. เมื่อเทียบรายปี โดยปรับตัวลงจากระดับ 2% ในเดือนก.พ. และเป็นอีกครั้งหนึ่งที่อัตราเงินเฟ้อยูโรโซนปรับตัวลงต่ำกว่าเป้าหมายของธนาคารกลางยุโรป (ECB) ที่อยู่ใกล้ระดับ 2%
ข้อมูลดังกล่าวส่งผลให้นักลงทุนลดคาดการณ์การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของ ECB ในเดือนธ.ค.
เมื่อวานนี้ การซื้อขายสัญญาล่วงหน้าอัตราดอกเบี้ยบ่งชี้ว่า นักลงทุนคาดว่า ECB มีโอกาส 35% ที่จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในช่วงปลายปี โดยตัวเลขดังกล่าวลดลงจากระดับ 50% เมื่อวันพฤหัสบดี และ 70% ในช่วงต้นสัปดาห์