ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์กดาวโจนส์ปิดบวก 36.43 จุดรับผลประกอบการสดใส,จับตาประชุมเฟด-ตัวเลขจ้างงานสหรัฐ

ข่าวหุ้น-การเงิน Wednesday May 3, 2017 06:26 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (2 พ.ค.) โดยได้แรงหนุนจากผลประกอบการที่สดใสของบริษัทจดทะเบียนรายใหญ่ ขณะที่ดัชนี Nasdaq ยังคงทำสถิติปิดที่ระดับสูงสุดติดต่อกันเป็นวันที่ 2 เนื่องจากราคาหุ้นแอปเปิลพุ่งขึ้นก่อนที่ทางบริษัทจะเปิดเผยผลประกอบการ ขณะที่นักลงทุนจับตาผลการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ซึ่งจะเสร็จสิ้นในวันนี้ตามเวลาสหรัฐ และตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนเม.ย.ของสหรัฐซึ่งจะมีการเปิดเผยในวันศุกร์นี้

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 20,949.89 จุด เพิ่มขึ้น 36.43 จุด หรือ +0.17% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,391.17 จุด เพิ่มขึ้น 2.84 จุด หรือ +0.12% ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 6,095.37 จุด เพิ่มขึ้น 3.76 จุด หรือ +0.06%

ภาวะการซื้อขายในตลาดหุ้นนิวยอร์กได้รับแรงหนุนจากผลประกอบการที่แข็งแกร่งของบริษัทจดทะเบียน โดยบริษัทไฟเซอร์ อิงค์ เปิดเผยว่า กำไรสุทธิ 3.12 พันล้านดอลลาร์ในไตรมาส 1 และมีกำไร 69 เซนต์/หุ้น ซึ่งสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดไว้ที่ระดับ 67 เซนต์/หุ้น

ขณะที่เมิร์ค แอนด์ โค อิงค์ ซึ่งเป็นบริษัทเวชภัณฑ์รายใหญ่เป็นอันดับ 2 ของสหรัฐ เปิดเผยกำไรสุทธิ 1.55 พันล้านดอลลาร์ หรือ 56 เซนต์/หุ้นในไตรมาส 1 ส่วนรายได้อยู่ที่ระดับ 9.43 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งสูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ที่ระดับ 9.25 พันล้านดอลลาร์

ทั้งนี้ หุ้นเมิร์ค แอนด์ โค ปิดตลาดปรับตัวขึ้น 0.5% อย่างไรก็ตาม หุ้นไฟเซอร์ปิดลบ 0.5%

หุ้นโคช ผู้ผลิตกระเป๋าแบรนด์ชื่อดัง ทะยานขึ้น 11% หลังจากบริษัทเปิดเผยผลประกอบการที่ดีเกินคาด

หุ้นแอปเปิลปิดตลาดเพิ่มขึ้น 0.6% หลังจากที่พุ่งทำนิวไฮในระหว่างวัน ก่อนที่ทางบริษัทจะรายงานผลประกอบการในช่วงที่ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดทำการแล้ว ขณะที่นักลงทุนคาดการณ์ว่า แอปเปิลจะเปิดเผยกำไรต่อหุ้นที่ระดับ 2.02 ดอลลาร์ โดยมีรายได้ 5.297 หมื่นล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว ซึ่งมีกำไรต่อหุ้นที่ระดับ 1.90 ดอลลาร์ ขณะที่มีรายได้ 5.06 หมื่นล้านดอลลาร์

ทั้งนี้ การพุ่งขึ้นของหุ้นแอปเปิลและการคาดการณ์เกี่ยวกับผลประกอบการที่แข็งแกร่งของแอปเปิล นับเป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยหนุนดัชนี Nasdaq ทำสถิติปิดที่ระดับสูงสุดติดต่อกันเป็นวันที่ 2

อย่างไรก็ตาม หุ้นบริษัทรถยนต์ร่วงลง หลังมีรายงานว่าบริษัทผลิตรถยนต์ระดับท็อปไฟว์ของสหรัฐมียอดขายลดลงในเดือนเม.ย. อันเนื่องมาจากอุปสงค์ชะลอตัวลง โดยหุ้นฟอร์ด มอเตอร์ ร่วงลง 4.4% หลังจากบริษัทเปิดเผยยอดขายลดลง 7.2% หุ้นเจเนอรัล มอเตอร์ (จีเอ็ม) ดิ่งลง 2.9% หลังจากยอดขายของบริษัทลดลง 5.9%

นักลงทุนจับตาผลการประชุมเฟดซึ่งจะมีการแถลงในวันนี้ตามเวลาสหรัฐ ขณะที่กระแสคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่บ่งชี้ว่า คณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงิน (FOMC) ของเฟดจะตรึงอัตราดอกเบี้ยในการประชุมครั้งนี้ แต่อาจจะส่งสัญญาณความเป็นไปได้ในการปรับขึ้นดอกเบี้ยในการประชุมเดือนมิ.ย.

นอกจากนี้ นักลงทุนยังรอดูตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรประจำเดือนเม.ย.ของสหรัฐในวันศุกร์นี้ และการเลือกตั้งประธานาธิบดีรอบ 2 ของฝรั่งเศสในวันอาทิตย์นี้

สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจด้านอื่นๆของสหรัฐที่จะมีการเปิดเผยในสัปดาห์นี้ ได้แก่ ตัวเลขจ้างงานภาคเอกชนเดือนเม.ย.จาก ADP, ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคบริการเดือนเม.ย.จากมาร์กิต, ดัชนีภาคบริการเดือนเม.ย.จากสถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (ISM), จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ และยอดสั่งซื้อภาคโรงงานเดือนมี.ค.


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ