ตลาดหุ้นเอเชียปรับตัวขึ้นในการซื้อขายภาคบ่ายวันนี้ ภายหลังจากที่ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ของจีน ได้ประกาศสนับสนุนเงินทุนถึง 1 แสนล้านหยวน เข้ากองทุนเส้นทางสายไหม โดยตลาดไม่ได้วิตกกังวลมากนักเกี่ยวกับการที่เกาหลีเหนือทดสอบขีปนาวุธเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา รวมทั้งเหตุโจมตีทางไซเบอร์ด้วยการใช้โปรแกรมเรียกค่าไถ่ที่มีชื่อว่า WannaCry ขณะที่จีนได้เปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจหลายรายการในวันนี้ ซึ่งมีทั้งข้อมูลที่บ่งชี้ทั้งการขยายตัวและการชะลอตัว
ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงปิดภาคเช้าที่ 25,301.50 จุด เพิ่มขึ้น 145.16 จุด, +0.58% ดัชนี SENSEX ตลาดหุ้นอินเดียเปิดวันนี้ที่ 30,287.37 จุด, เพิ่มขึ้น 99.22 จุด, +0.33% ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียปิดภาคเช้าที่ 1,773.67 จุด ลดลง 2.20 จุด -0.12%
ประธานาธิบดี สี จิ้นผิง ของจีน ประกาศในพิธีเปิดการประชุม Belt and Road Forum for International Cooperation ที่กรุงปักกิ่ง วันนี้ว่า จีนจะสนับสนุนเงินทุนเพิ่มเติม 1 แสนล้านหยวน (ประมาณ 1.45 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ) ให้กับกองทุนเส้นทางสายไหม (Silk Road Fund)
ขณะที่นายหยี่ กัง รองผู้ว่าการธนาคารกลางจีน เปิดเผยว่า การตัดสินใจอัดฉีดเงินเข้ากองทุนเส้นทางสายไหมนั้นเป็นผลมาจากความต้องการเงินทุนจำนวนมหาศาลสำหรับโครงการต่างๆในปัจจุบัน และคาดว่าความต้องการดังกล่าวจะยิ่งเพิ่มมากขึ้นในอนาคต โดยการเพิ่มทุนดังกล่าวจะช่วยให้กองทุนมีความยืดหยุ่นและประสิทธิภาพสูง รวมทั้งสนับสนุนบทบาทของกองทุนในการปล่อยสินเชื่อ
ร็อบ เวนไรท์ ผู้อำนวยการสำนักงานตำรวจยุโรป (ยูโรโพล) เปิดเผยว่าผู้ได้รับผลกระทบจากเหตุโจมตีคอมพิวเตอร์โดยโปรแกรมเรียกค่าไถ่ที่ชื่อว่า WannaCry ขณะนี้มีจำนวนมากกว่า 200,000 ราย ใน 150 ประเทศ และคาดว่าจำนวนดังกล่าวจะเพิ่มสูงขึ้นอีก
ผู้อำนวยการยูโรโพลให้สัมภาษณ์กับสถานีโทรทัศน์ ITV ของอังกฤษว่า ผู้ได้รับผลกระทบจำนวนมากเป็นธุรกิจ ซึ่งรวมถึงบริษัทขนาดใหญ่ และคาดว่าจำนวนผู้ได้รับผลกระทบจะเพิ่มสูงขึ้น เมื่อบริษัทต่างๆ เปิดทำงานในเช้าวันจันทร์ พร้อมกับเตือนว่า แม้ภาคบริการสุขภาพในหลายประเทศมีความเสี่ยงเป็นพิเศษที่จะได้รับผลกระทบจากไวรัสเรียกค่าไถ่ดังกล่าว แต่ทุกองค์กรก็ควรให้ความสำคัญกับการรักษาความมั่นคงปลอดภัยทางไซเบอร์และอัปเดตระบบ
ทางการเกาหลีเหนือประกาศในวันนี้ว่า เกาหลีเหนือประสบความสำเร็จในการยิงขีปนาวุธเมื่อวานนี้ พร้อมระบุว่า ขีปนวุธดังกล่าวคือ "Hwasong-12" ซึ่งเป็นขีปนาวุธพิสัยกลางรุ่นใหม่
สำนักข่าว KCNA ของเกาหลีเหนือระบุว่า นายคิม จอง อึน ผู้นำเกาหลีเหนือได้เดินทางมาสังเกตุการณ์ยิงขีปนาวุธครั้งนี้ด้วยตนเอง และพอใจกับผลการทดสอบยิงขีปนวุธ Hwasong-12 ซึ่งเป็นขีปนาวุธติดหัวรบนิวเคลียร์ขนาดใหญ่
สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจฝั่งเอเชียที่ได้มีการเปิดเผยแล้วในวันนี้ ได้แก่ สำนักงานสถิติแห่งชาติจีน (NBS) เปิดเผยในวันนี้ว่า ผลผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือนเม.ย. ขยายตัวที่ระดับ 6.5% เทียบรายปี ซึ่งชะลอตัวลง 1.1% จากระดับการขยายตัว 7.6% ในเดือนมี.ค.
ขณะที่การลงทุนในสินทรัพย์ถาวรช่วง 4 เดือนแรกของปีนี้ มีการขยายตัวที่ระดับ 8.9% ซึ่งชะลอตัวลงจากไตรมาสแรกที่มีการขยายตัว 9.2%
สำหรับยอดค้าปลีกเดือนเม.ย.ขยายตัว 10.7% เทียบรายปี
ส่วนในช่วง 4 เดือนแรกของปีนี้ ยอดค้าปลีกโดยรวมปรับตัวขึ้น 10.2% เทียบรายปี ซึ่งเป็นการขยายตัวที่รวดเร็วกว่าในช่วงไตรมาสแรกปีนี้