ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์กดาวโจนส์ปิดลบ 22.25 จุด วิตกการเมืองตปท.,ข้อมูลศก.สหรัฐซบเซา

ข่าวหุ้น-การเงิน Tuesday June 6, 2017 06:38 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (5 มิ.ย.) เนื่องจากความกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์การเมืองในต่างประเทศ ซึ่งรวมถึงเหตุการณ์โจมตีกรุงลอนดอนก่อนที่การเลือกตั้งของอังกฤษจะมีขึ้นในวันพฤหัสบดีนี้ และข่าวชาติอาหรับได้ประกาศตัดความสัมพันธ์ทางการทูตกับกาตาร์ นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงกดดันจากการร่วงลงของหุ้นแอปเปิล และข้อมูลเศรษฐกิจที่อ่อนแอของสหรัฐ

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 21,184.04 จุด ลดลง 22.25 จุด หรือ -0.10% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,436.10 จุด ลดลง 2.97 จุด, -0.12% ดัชนี NASDAQ ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดวันทำการล่าสุดที่ 6,295.68 จุด ลดลง 10.11 จุด, -0.16%

ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดอ่อนแรงลงเนื่องจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์การเมืองในต่างประเทศ รวมถึงเหตุก่อการร้ายโจมตีกรุงลอนดอนเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา ซึ่งส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต 7 คน และบาดเจ็บอีกจำนวนมาก โดยเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นก่อนที่การเลือกตั้งทั่วไปของอังกฤษจะมีขึ้นในวันพฤหัสบดีที่ 8 มิ.ย.นี้

เหตุการณ์โจมตีกรุงลอนดอนครั้งล่าสุดนี้ได้ฉุดคะแนนนิยมพรรคอนุรักษ์นิยมของนางเทเรซา เมย์ นายกรัฐมนตรีอังกฤษ ถดถอยลงอีก และยังส่งผลให้เกิดความไม่แน่นอนการเมืองของอังกฤษ หลังจากที่ก่อนหน้านี้ คะแนนนิยมของนางเทเรซา เมย์ ไดรับผลกระทบอย่างหนักจากเหตุการณ์ลอบวางระเบิดในเมืองแมนเชสเตอร์ เมื่อวันที่ 22 พ.ค.ที่ผ่านมา

ขณะเดียวกันมีรายงานว่า ประเทศอาหรับหลายประเทศ ซึ่งรวมถึง บาห์เรน ซาอุดิอาระเบีย สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ อียิปต์ เยเมน ลิเบีย และมัลดีฟส์ ได้ประกาศตัดความสัมพันธ์ทางการทูดกับกาตาร์ โดยอ้างเหตุผลว่ากาตาร์ให้การสนับสนุนกลุ่มก่อการร้าย และบ่อนทำลายเสถียรภาพในภูมิภาค

นอกจากนี้ นักลงทุนยังระมัดระวังการซื้อขายก่อนที่นายเจมส์ โคมีย์ อดีตผู้อำนวยการสำนักงานสอบสวนกลางสหรัฐ(FBI) จะแถลงต่อวุฒิสภาสหรัฐในวันที่ 8 มิ.ย.นี้ เพื่อให้ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับความเชื่อมโยงระหว่างนายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐ และรัสเซีย

ภาวะการซื้อขายในตลาดหุ้นนิวยอร์กยังได้รับแรงกดดันจากข้อมูลเศรษฐกิจที่อ่อนแอของสหรัฐ โดยผลสำรวจของสถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (ISM) ระบุว่า ดัชนีภาคบริการของ ISM ขยายตัวที่ระดับ 56.9 ในเดือนพ.ค. ซึ่งลดลงจากจากระดับ 57.5 ในเดือนเม.ย. และอยู่ในระดับต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ 57.0

ทางด้านกระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ยอดสั่งซื้อภาคโรงงานของสหรัฐลดลง 0.2% ในเดือนเม.ย. ซึ่งเป็นการปรับตัวลงครั้งแรกในรอบ 5 เดือน หลังจากเพิ่มขึ้น 1.0% ในเดือนมี.ค.

หุ้นแอปเปิล ร่วงลงกว่า 1% และเป็นหนึ่งในปัจจัยที่กดดันตลาด หลังจากบริษัทแปซิฟิก เครส ปรับลดอันดับความน่าลงทุนของหุ้นแอปเปิลสู่ 'weight' จาก 'overweight' ก่อนหน้านี้

หุ้นทีจี เธราพูติกส์ ซึ่งเป็นผู้ผลิตยารายใหญ่ของสหรัฐ ร่วงลง 6.1% ขณะที่หุ้นเฮอร์บอลไลฟ์ ดิ่งลง 6.7% หลังจากบริษัทปรับลดคาดการณ์ยอดขายในปีนี้

นักลงทุนรอดูข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐในสัปดาห์นี้ ซึ่งได้แก่ จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ และสต็อกสินค้าคงคลังภาคค้าส่งเดือนเม.ย. นอกจากนี้ นักลงทุนยังจับตาการประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางยุโรป (ECB) ในวันพฤหัสบดีนี้ เพื่อดูว่า ECB จะส่งสัญญาณใดๆเกี่ยวกับการปรับลดมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจหรือไม่


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ