ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (7 มิ.ย.) โดยได้แรงหนุนจากการพุ่งขึ้นของหุ้นกลุ่มธนาคาร ขณะที่นักลงทุนจับตา 3 เหตุการณ์สำคัญที่จะเกิดขึ้นในวันนี้ ซึ่งได้แก่ การเลือกตั้งทั่วไปในอังกฤษ, การประชุมกำหนดนโยบายการเงินของธนาคารกลางยุโรป (ECB) และการที่นายเจมส์ โคมีย์ อดีตผู้อำนวยการสำนักงานสอบสวนกลางสหรัฐ (FBI) จะเข้าให้การต่อวุฒิสภาในประเด็นรัสเซีย
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 21,173.69 จุด เพิ่มขึ้น 37.46 จุด หรือ +0.18% ดัชนี S&P 500 ปิดที่ 2,433.14 จุด เพิ่มขึ้น 3.81 จุด หรือ +0.16% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 6,297.38 จุด เพิ่มขึ้น 22.32 จุด หรือ +0.36%
หุ้นกลุ่มธนาคารดีดตัวขึ้น ซึ่งช่วยหนุนตลาดหุ้นนิวยอร์กให้ปิดในแดนบวก นำโดยหุ้นอเมริกัน เอ็กซ์เพรส ซึ่งปรับตัวขึ้นกว่า 1%
หุ้นแอดวานซ์ ไมโคร ดิไวซ์ ทะยานขึ้น 2.9% ขณะที่หุ้นแพนโดรา พุ่งขึ้น 3.1%
อย่างไรก็ตาม แม้ตลาดปิดในแดนบวก แต่บรรยากาศการซื้อขายในตลาดหุ้นนิวยอร์กเป็นไปอย่างระมัดระวัง ก่อนที่ 3 เหตุการณ์สำคัญจะเกิดขึ้นในวันนี้ ซึ่งได้แก่ การเลือกตั้งทั่วไปในอังกฤษ, การประชุมกำหนดนโยบายการเงินของธนาคารกลางยุโรป (ECB) และการที่นายเจมส์ โคมีย์ อดีตผู้อำนวยการสำนักงานสอบสวนกลางสหรัฐ (FBI) จะเข้าให้การต่อวุฒิสภาในประเด็นรัสเซีย
ทั้งนี้ นายโคมีย์จะให้การต่อวูฒิสภาสหรัฐว่า ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ได้กดดันเขาให้ยุติการสืบสวนต่อข้อกล่าวหาที่ว่ารัสเซียได้เข้าแทรกแซงการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐในปี 2016 หรือไม่ และปธน.ทรัมป์ได้เรียกร้องให้เขายุติการสอบสวนประเด็นความสัมพันธ์ระหว่างนายไมเคิล ฟลินน์ อดีตที่ปรึกษาฝ่ายความมั่นคงแห่งชาติของสหรัฐ กับรัฐบาลรัสเซีย หรือไม่
สำหรับการประชุม ECB นั้น นักลงทุนจับตาถ้อยแถลงของนายมาริโอ ดรากี ประธาน ECB ในวันนี้ เพื่อหาสัญญาณบ่งชี้ทิศทางอัตราดอกเบี้ยในอนาคต และแนวโน้มของการใช้มาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE)
ส่วนการเลือกตั้งทั่วไปของอังกฤษนั้น กระแสคาดการณ์บ่งชี้ว่า พรรคอนุรักษ์นิยมของนางเทเรซา เมย์ นายกรัฐมนตรีอังกฤษ จะสามารถคว้าชัยชนะในการเลือกตั้ง แม้ผลสำรวจของหลายสำนักบ่งชี้ว่าคะแนนนิยมของทางพรรคที่มีเหนือคู่แข่งได้ลดลงอย่างมากในช่วงก่อนวันเลือกตั้ง และจะส่งผลให้พรรคอนุรักษ์นิยมไม่สามารถครองเสียงข้างมากในรัฐสภาอังกฤษ นักลงทุนรอดูข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐในสัปดาห์นี้ ซึ่งได้แก่ จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ และสต็อกสินค้าคงคลังภาคค้าส่งเดือนเม.ย.