ตลาดหุ้นลอนดอนปิดในแดนลบเมื่อคืนนี้ (20 มิ.ย.) ด้วยแรงฉุดของหุ้นกลุ่มพลังงานที่ร่วงลงจากแรงกดดันของราคาน้ำมันที่ดิ่งลงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 10 เดือนเมื่อคืนนี้
ดัชนี FTSE 100 ลดลง 51.10 จุด หรือ -0.68% ปิดที่ 7,472.71 จุด
ภาวะการซื้อขายในตลาดหุ้นลอนดอนเมื่อคืนนี้ ได้รับแรงกดดันจากราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ในตลาดนิวยอร์ก ซึ่งร่วงลงหลุดระดับ 44 ดอลลาร์/บาร์เรล สู่ระดับต่ำสุดในรอบ 10 เดือนเมื่อคืนนี้ สืบเนื่องจากนักลงทุนวิตกกังวลว่า การผลิตน้ำมันที่เพิ่มขึ้นของสหรัฐ ลิเบีย และไนจีเรีย อาจจะขัดขวางความพยายามของกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) ในการปรับลดกำลังการผลิต
การร่วงลงของราคาน้ำมันได้ฉุดหุ้นกลุ่มพลังงานปรับตัวลงกันถ้วนหน้า โดยหุ้นรอยัล ดัตช์ เชลล์ ร่วงลง 2.3% ขณะที่หุ้นบีพี ร่วงลง 2.6%
นอกจากปัจจัยราคาน้ำมันแล้ว หุ้นกลุ่มธนาคารยังร่วงลงภายหลังจากนายมาร์ค คาร์นีย์ ผู้ว่าการธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) ออกมากล่าวว่า ขณะนี้ยังไม่ถึงเวลาที่จะปรับเปลี่ยนนโยบายสู่การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย และยังไม่มีความเร่งรีบที่จะคุมเข้มด้านนโยบายแต่อย่างใด
หุ้นลอยด์ แบงกิ้ง กรุ๊ป ร่วง 2.5% หุ้นสแตนดาร์ด ชาร์เตอร์ด ลดลง 1% หุ้นเอชเอสบีซี ขยับลง 0.5% หุ้นรอยัล แบงก์ ออฟ สกอตแลนด์ ขยับลง 0.7% และหุ้นบาร์เคลย์ส ลดลง 1.9%