ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์กดาวโจนส์ปิดลบ 98.89 จุด หลังวุฒิสภาสหรัฐเลื่อนโหวตร่างกม.ประกันสุขภาพ

ข่าวหุ้น-การเงิน Wednesday June 28, 2017 06:21 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (27 มิ.ย.) หลังจากวุฒิสภาสหรัฐได้ตัดสินใจเลื่อนการลงมติร่างกฎหมายประกันสุขภาพฉบับใหม่ ซึ่งส่งผลให้นักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับความล่าช้าในการบังคับใช้มาตรการอื่นๆ รวมถึงมาตรการปฏิรูปภาษี นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงกดดันจากการร่วงลงอย่างหนักของหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี และข่าวคณะกรรมาธิการยุโรป (EC) สั่งปรับบริษัทกูเกิลในข้อหาละเมิดกฎหมายต่อต้านการผูกขาดจากการให้บริการช้อปปิ้งออนไลน์

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 21,310.66 จุด ลดลง 98.89 จุด หรือ -0.46% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,419.38 จุด ลดลง 19.69 จุด หรือ -0.81% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 6146.62 จุด ร่วงลง 100.53 จุด หรือ -1.61%

ตลาดหุ้นนิวยอร์กร่วงลงหลังจากวุฒิสภาสหรัฐได้ตัดสินใจเลื่อนการลงมติร่างกฎหมายประกันสุขภาพฉบับใหม่ หรือ "อเมริกันเฮลธ์แคร์" ออกไปเป็นช่วงหลังวันที่ 4 ก.ค.ซึ่งเป็นวันชาติสหรัฐ โดยร่างกฎหมายดังกล่าวมีเป้าหมายที่จะนำมาใช้แทนกฎหมายประกันสุขภาพฉบับของรัฐบาลอดีตประธานาธิบดีบารัค โอบามา หรือ "โอบามาแคร์"

นักวิเคราะห์จากเวลส์ ฟาร์โก อินเวสท์เมนท์ อินสติทิวท์ กล่าวว่า การเลื่อนโหวตร่างกฎหมายประกันสุขภาพฉบับใหม่ส่งผลให้นักลงทุนกังวลว่า สถานการณ์การเมืองที่ไม่ราบรื่นในสหรัฐอาจทำให้รัฐบาลของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ เผชิญกับความยากลำบากในการผลักดันร่างกฎหมายอื่นๆด้วย โดยเฉพาะอย่างยิ่งร่างกฎหมายปฏิรูปภาษี นอกจากนี้ ร่างกฎหมายประกันสุขภาพฉบับใหม่มีแนวโน้มที่จะเผชิญกับอุปสรรคภายในพรรค เนื่องจากวุฒิสมาชิกรีพับลิกันหลายคนได้แสดงความไม่เห็นด้วย ซึ่งจะทำให้พรรครีพับลิกันไม่สามารถรวบรวมคะแนนเสียงสนับสนุนได้เพียงพอต่อการผ่านร่างกฎหมายดังกล่าวในวุฒิสภา

ทางด้านสำนักงบประมาณประจำรัฐสภาของสหรัฐระบุว่า ร่างกฎหมายฉบับใหม่นี้ จะทำให้ประชาชนที่ไม่มีประกันสุขภาพมีจำนวนเพิ่มขึ้นถึง 22 ล้านคนภายในปี 2569

นอกจากนี้ นักลงทุนยังวิตกกังวลกับข่าวที่ว่า คณะกรรมาธิการยุโรป (EC) ซึ่งกำกับดูแลการแข่งขันในสหภาพยุโรป (EU) ประกาศปรับบริษัทกูเกิล เป็นเงินจำนวน 2.42 พันล้านยูโร (2.7 พันล้านดอลลาร์) ในข้อหาละเมิดกฎหมายต่อต้านการผูกขาดจากการให้บริการช้อปปิ้งในระบบออนไลน์ โดยวงเงินค่าปรับดังกล่าวถือว่าสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในคดีต่อต้านการแข่งขัน

หุ้นกลุ่มเทคโนโลยีร่วงลงอย่างต่อเนื่อง และเป็นหนึ่งในปัจจัยที่ฉุดตลาดปิดในแดนลบ โดยหุ้นกูเกิล ดิ่งลง 2.5% หุ้นเฟซบุ๊ก ร่วงลง 2% หุ้นเนทฟลิกซ์ ดิ่งลง 4.1% หุ้นแอดวานซ์ ไมโคร ดิไวซ์ ร่วงลง 4.8% หุ้นซีเกท เทคโนโลยี ร่วงลง 6.8%

หุ้นเจนเนอรัล มอเตอร์ (GM) ปรับตัวลง 0.9% หลังจากนายชัค สตีเวนส์ ซีอีโอของ GM คาดการณ์ว่า ยอดขายรถยนต์สหรัฐตลอดทั้งปีนี้อาจขยายตัวต่ำกว่าที่คาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้ เนื่องจากมีสัญญาณการชะลอตัวของอุปสงค์ในตลาดรถยนต์สหรัฐ

สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐที่มีการเปิดเผยล่าสุดนั้น สแตนดาร์ด แอนด์ พัวร์/เคส ชิลเลอร์เปิดเผยว่า ดัชนีราคาบ้านทั่วประเทศในสหรัฐ เพิ่มขึ้น 5.5% ในเดือนเม.ย. น้อยกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะพุ่งขึ้น 5.9%

ส่วนการกล่าวสุนทรพจน์ของนางเจเน็ต เยลเลน ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ซึ่งมีขึ้นที่ British Academy กรุงลอนดอนเมื่อวานนั้น แทบไม่ได้ส่งผลต่อบรรยากาศการซื้อขายในตลาด เนื่องจากประธานเฟดได้แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับภาคธนาคารเป็นส่วนใหญ่ โดยไม่ได้กล่าวถึงนโยบายการเงินตามที่ตลาดคาดการณ์ไว้

นางเยลเลนกล่าวว่า การปฏิรูปด้านการธนาคาร ได้ช่วยทำให้ระบบการเงินมีความปลอดภัยมากขึ้น และประเทศต่างๆจะสามารถหลีกเลี่ยงวิกฤตการณ์ที่เคยเกิดขึ้นในปี 2008 พร้อมกับกล่าวว่า ผู้กำกับภาคธนาคารทำหน้าที่ดีขึ้นในการค้นหาความเสี่ยงต่อเสถียรภาพทางการเงิน และเธอคาดหวังว่า วิกฤตการณ์ครั้งใหม่จะไม่เกิดขึ้นอีกในช่วงอายุของคนในสมัยนี้

นักลงทุนจับตาข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐในวันนี้ ซึ่งได้แก่ สต็อกสินค้าคงคลังภาคค้าส่งเบื้องต้นเดือนพ.ค. และยอดทำสัญญาขายบ้านที่รอปิดการขาย (pending home sales) เดือนพ.ค.


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ