ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์กดาวโจนส์ปิดพุ่ง 100.26 จุด รับผลประกอบการบริษัทจดทะเบียน

ข่าวหุ้น-การเงิน Wednesday July 26, 2017 06:41 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นกว่า 100 จุดเมื่อคืนนี้ (25 ก.ค.) ขณะที่ดัชนี S&P500 และ Nasdaq ปิดทำนิวไฮ เนื่องจากนักลงทุนขานรับผลประกอบการที่แข็งแกร่งของบริษัทจดทะเบียนรายใหญ่ ซึ่งรวมถึง แคทเธอร์พิลลาร์ และแมคโดนัลด์ นอกจากนี้ ตลาดยังได้แรงหนุนจากข้อมูลเศรษฐกิจที่สดใสของสหรัฐ ซึ่งได้แก่ความเชื่อมั่นผู้บริโภคและดัชนีราคาบ้าน

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 21,613.43 จุด พุ่งขึ้น 100.26 จุด หรือ +0.47% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,477.13 จุด เพิ่มขึ้น 7.22 จุด หรือ +0.29% ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 6,412.17 จุด เพิ่มขึ้น 1.37 จุด หรือ +0.02%

ภาวะการซื้อขายในตลาดหุ้นนิวยอร์กเป็นไปอย่างคึกคัก หลังจากบริษัทจดทะเบียนรายใหญ่ได้เปิดเผยผลประกอบการที่แข็งแกร่ง โดยแคทเธอร์ พิลลาร์ ซึ่งเป็นบริษัทผลิตเครื่องมือก่อสร้างขนาดใหญ่ของสหรัฐ เปิดเผยว่า บริษัทมีกำไร 1.49 ดอลลาร์/หุ้น ในไตรมาส 2 ซึ่งสูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ที่ระดับ 1.26 ดอลลาร์/หุ้น ส่วนรายได้อยู่ที่ระดับ 1.133 หมื่นล้านดอลลาร์ ขณะที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 1.093 หมื่นล้านดอลลาร์

ทางด้านบริษัทแมคโดนัลด์ คอร์ป รายงานว่า บริษัทมีกำไรที่ระดับ 1.70 ดอลลาร์/หุ้น ในไตรมาส 2 สูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ที่ 1.62 ดอลลาร์/หุ้น ส่วนรายได้อยู่ที่ระดับ 6.05 พันล้านดอลลาร์ สูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ที่ 5.96 พันล้านดอลลาร์

ขณะที่เจเนอรัล มอเตอร์ (GM) บริษัทผู้ผลิตรถยนต์รายใหญ่ที่สุดของสหรัฐ เปิดเผยว่า บริษัทมีกำไร 1.89 ดอลลาร์/หุ้นในไตรมาส 2 สูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ที่ระดับ 1.69 ดอลลาร์/หุ้น อย่างไรก็ตาม รายได้อยู่ที่ระดับ 3.7 หมื่นล้านดอลลาร์ ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 4.03 หมื่นล้านดอลลาร์

ทั้งนี้ หุ้นแมคโดนัลด์ พุ่งขึ้น 4.8% หุ้นแคทเธอร์พิลลาร์ ทะยานขึ้น 5.9%

หุ้นฟรีพอร์ท-แมคมอแรน พุ่งขึ้น 15% หลังจากบริษัทสามารถพลิกกลับมาทำกำไรได้ในไตรมาส 2

หุ้นไมเคิล คอร์ส ขยับขึ้น 0.5% ขณะที่หุ้นจิมมี ชู ทะยานขึ้น 17% หลังจากไมเคิล คอร์ส ผู้ผลิตกระเป๋าและสินค้าแบรนด์เนมชื่อดัง ได้ตกลงเทคโอเวอร์กิจการของจิมมี ชู ผู้ผลิตรองเท้าและเครื่องประดับสุดหรู ด้วยวงเงินสูงถึง 896 ล้านปอนด์ หรือ 1.17 พันล้านดอลลาร์

หุ้น 3M ร่วงลง 5.1% หลังจากบริษัทเปิดเผยรายได้ไตรมาส 2 ที่น้อยกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์

นอกจากนี้ ตลาดหุ้นนิวยอร์กยังได้ปัจจัยหนุนจากข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งของสหรัฐ โดยผลสำรวจของ Conference Board เปิดเผยว่า ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคสหรัฐพุ่งขึ้นสู่ระดับ 121.5 ในเดือนมิ.ย. ยสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 116.5 ขณะที่ผลสำรวจของสแตนดาร์ด แอนด์ พัวร์/เคส ชิลเลอร์ระบุว่า ดัชนีราคาบ้านทั่วประเทศในสหรัฐ เพิ่มขึ้น 5.6% ในเดือนพ.ค.

นักลงทุนจับตาบริษัทจดทะเบียนราว 180 แห่งในดัชนี S&P 500 จะประกาศผลประกอบการในสัปดาห์นี้ ซึ่งรวมถึงเฟซบุ้ก, โบอิ้ง และอเมซอน ขณะที่นักวิเคราะห์คาดว่าบริษัทจดทะเบียนจะมีการขยายตัวของผลประกอบการเฉลี่ย 6.2%

นอกจากนี้ นักลงทุนยังจับตาการประชุมคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (FOMC) ซึ่งจะเสร็จสิ้นในวันพุธที่ 26 ก.ค.ตามเวลาสหรัฐ ท่ามกลางกระแสคาดการณ์ที่ว่า คณะกรรมการ FOMC จะมีมติคงอัตราดอกเบี้ยในการประชุมครั้งนี้ หลังจากที่ได้ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยระยะสั้น 0.25% สู่ระดับ 1.00-1.25% ในการประชุมเมื่อวันที่ 14 มิ.ย.ที่ผ่านมา

ขณะเดียวกัน นักลงทุนยังรอดูข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐในสัปดาห์นี้ ซึ่งได้แก่ ยอดขายบ้านใหม่เดือนมิ.ย., ดุลการค้าเดือนมิ.ย., ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนเดือนมิ.ย., จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์, สต็อกสินค้าคงคลังภาคค้าส่งเดือนมิ.ย. และผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ไตรมาส 2


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ