ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์กดาวโจนส์ปิดร่วง 204.69 จุด วิตกความขัดแย้งสหรัฐ-เกาหลีเหนือบานปลาย

ข่าวหุ้น-การเงิน Friday August 11, 2017 06:36 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดร่วงลงกว่า 200 จุดเมื่อคืนนี้ (10 ส.ค.) โดยดาวโจนส์ปิดในแดนลบติดต่อกันเป็นวันที่ 3 เนื่องจากนักลงทุนยังคงวิตกกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์ตึงเครียดระหว่างสหรัฐและเกาหลีเหนือ โดยล่าสุดเกาหลีเหนือได้ออกมาเน้นย้ำถึงแผนการโจมตีเกาะกวมภายในกลางเดือนนี้ นอกจากนี้ นักลงทุนยังผิดหวังต่อผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียน ซึ่งรวมถึงเมซีส์ อิงค์ ห้างค้าปลีกยักษ์ใหญ่ของสหรัฐ

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 21,844.01 จุด ร่วงลง 204.69 จุด หรือ -0.93% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,438.21 จุด ลดลง 35.81 จุด หรือ -1.45% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 6,216.87 จุด ลดลง 135.46 จุด หรือ -2.13%

ภาวะการซื้อขายในตลาดหุ้นนิวยอร์กเป็นไปอย่างซบเซา เนื่องจากนักลงทุนหลีกเลี่ยงการลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยง หลังจากสถานการณ์ความขัดแย้งระหว่างสหรัฐและเกาหลีเหนือได้ทวีความรุนแรงขึ้น โดยล่าสุดสำนักข่าว KCNA ของทางการเกาหลีเหนือรายงานว่า กองทัพประชาชนเกาหลี (KPA) กำลังพิจารณาแผนการยิงขีปนาวุธพิสัยกลาง Hwasong-12 จำนวน 4 ลูกพร้อมกัน โดยให้ตกลงห่างจากเกาะกวม 30-40 กม. ซึ่งการยิงขีปนาวุธดังกล่าวจะเกิดขึ้นภายในกลางเดือนนี้

ทางด้านประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ เตือนว่า เกาหลีเหนือจะต้องเผชิญกับ "ไฟและความเดือดดาล" จากสหรัฐ หากยังคงดึงดันทำสิ่งที่เป็นภัยคุกคามต่อสหรัฐมากกว่านี้ พร้อมกับกล่าวว่า การใช้ระเบิดนิวเคลียร์ของเกาหลีเหนือ อาจเป็นสาเหตุที่จะทำให้เกิดสงครามโลกครั้งที่ 3

ขณะที่นายลี ชุน กึน นักวิจัยจากสถาบันนโยบายวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีของเกาหลีใต้ กล่าวว่า มีความเสี่ยงที่ขีปนาวุธดังกล่าวจะตกลงใกล้กับเกาะกวมมากกว่าที่เกาหลีเหนือคำนวณไว้ และสหรัฐจะมองว่าการกระทำดังกล่าวจะถือเป็นการโจมตีของเกาหลีเหนือ หากขีปนาวุธตกลงภายในน่านน้ำของเกาะกวม และสหรัฐคงเลือกที่จะหาทางยิงสกัดขีปนาวุธก่อนที่จะเข้าใกล้น่านน้ำของกวม ระหว่างที่ขีปนาวุธกำลังเดินทางเป็นระยะทางมากกว่า 3,000 กม.จากเกาหลีเหนือไปยังเกาะกวม

รายงานระบุว่า ขณะนี้กองเรือที่ 7 ของสหรัฐมีเรือ Aegis ที่ติดตั้งระบบต่อต้านขีปนาวุธจำนวน 6 ลำในภูมิภาคที่สามารถยิงสกัดขีปนาวุธของเกาหลีเหนือได้ ขณะที่ญี่ปุ่นมีอยู่ 4 ลำ นอกจากนี้ เกาะกวมยังมีการติดตั้งระบบต่อต้านขีปนาวุธ THAAD เช่นเดียวกับที่ติดตั้งในเกาหลีใต้

นอกเหนือจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับความตึงเครียดในคาบสมุทรเกาหลีแล้ว นักลงทุนยังผิดหวังต่อผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนรายใหญ่ โดยหุ้นเมซีส์ ร่วงลง 10.2% หลังจากบริษัทเปิดเผยว่า ยอดขายในห้างเมซีส์ที่เปิดดำเนินงานมานานกว่า 1 ปี ร่วงลง 2.5% ในไตรมาส 2 แม้ตัวเลขดังกล่าวออกมาดีกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่ายอดขายจะลดลง 3.0%

หุ้นโคห์ลส์ คอร์ป ซึ่งเป็นห้างสรรพสินค้ารายใหญ่ของสหรัฐ ดิ่งลง 5.8% หลังจากบริษัทเปิดเผยว่า ยอดขายในห้างที่เปิดดำเนินงานมานานกว่า 1 ปี ร่วงลง 0.4% ในไตรมาส 2 แม้ว่าตัวเลขดังกล่าวออกมาดีกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่ายอดขายจะลดลง 1.5%

หุ้นบลู แอพรอน ร่วงลงเกือบ 18% หลังจากบริษัทปรับลดคาดการณ์ผลประกอบการในปีนี้

หุ้นอเมซอน ดิ่งลง 2.6% หลังจากอเมซอนประกาศแผนการเข้าซื้อบริษัทไลฟ์ เนชั่น เอนเตอร์เทนเมนท์ ซึ่งเป็นธุรกิจจัดงานอีเวนท์ อย่างไรก็ตาม ข่าวดังกล่าวช่วยหนุนหุ้นไลฟ์ เนชั่น เอนเตอร์เทนเมนท์ พุ่งขึ้น 5.6%

นักลงทุนได้ซึมซับข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐที่มีการเปิดเผยเมื่อคืนนี้ โดยกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า จำนวนชาวอเมริกันที่ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกเพิ่มขึ้น 3,000 รายในสัปดาห์ที่แล้ว สู่ระดับ 244,000 ราย สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะทรงตัวที่ระดับ 240,000 ราย

ส่วนดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) ร่วงลง 0.1% ในเดือนก.ค.เมื่อเทียบรายเดือน ซึ่งเป็นการปรับตัวลงมากที่สุดนับตั้งแต่เดือนส.ค.2016 หลังจากขยับขึ้น 0.1% ในเดือนมิ.ย. โดยการร่วงลงของดัชนี PPI ได้รับผลกระทบจากการปรับตัวลงของค่าใช้จ่ายในภาคบริการ ขณะที่ราคาพลังงานอ่อนตัวลง

นักลงทุนรอดูข้อมูลเงินเฟ้อที่สำคัญของสหรัฐ โดยกระทรวงแรงงานสหรัฐจะเปิดเผยดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เดือนก.ค. ในวันนี้ เวลา 19.30 น.ตามเวลาไทย


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ