ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์กดาวโจนส์ปิดบวก 5.28 จุด รับยอดค้าปลีกสหรัฐสดใส,ตลาดคลายวิตกเกาหลีเหนือ

ข่าวหุ้น-การเงิน Wednesday August 16, 2017 06:39 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดขยับขึ้นเมื่อคืนนี้ (15 ส.ค.) โดยได้ปัจจัยหนุนจากรายงานยอดค้าปลีกที่แข็งแกร่งเกินคาดของสหรัฐ และจากการที่นักลงทุนคลายความวิตกกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์ตึงเครียดในคาบสมุทรเกาหลี อย่างไรก็ตาม การร่วงลงของหุ้นกลุ่มค้าปลีก ซึ่งรวมถึงหุ้นโฮม ดีโปท์ ได้สกัดแรงบวกในตลาด และส่งผลให้ภาวะการซื้อขายเป็นไปอย่างผันผวน

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 21,998.99 จุด เพิ่มขึ้น 5.28 จุด หรือ +0.02% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,464.61 จุด ลดลง 1.23 จุด หรือ -0.05% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 6,333.01 จุด ลดลง 7.22 จุด หรือ -0.11%

ดัชนีดาวโจนส์ปิดในแดนบวกติดต่อกันเป็นวันที่ 3 เมื่อคืนนี้ หลังจากกระทรวงพาณิชย์สหรัฐรายงานว่า ยอดค้าปลีกเดือนก.ค.พุ่งขึ้น 0.6% ในเดือนก.ค. ซึ่งเป็นการเพิ่มขึ้นมากที่สุดนับตั้งแต่เดือนธ.ค.ปีที่แล้ว และมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้นเพียง 0.4% โดยยอดค้าปลีกเดือนก.ค ได้รับแรงหนุนจากการพุ่งขึ้นของยอดขายรถยนต์ และสินค้าฟุ่มเฟือย

นอกจากนี้ ตลาดยังได้แรงหนุนจากการที่นักลงทุนคลายความวิตกกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์ในคาบสมุทรเกาหลี หลังจากนายคิม จอง อึน ผู้นำเกาหลีเหนือ กล่าวว่า เขาจะชะลอการตัดสินใจยิงขีปนาวุธไปตกลงในบริเวณเกาะกวม โดยจะจับตาดูความเคลื่อนไหวของสหรัฐก่อน ส่วนทางฝั่งสหรัฐนั้น นายเร็กซ์ ทิลเลอร์สัน รมว.ต่างประเทศสหรัฐ ยังคงยืนยันเจตนารมณ์ที่จะใช้ช่องทางการทูตและการเจรจาในการคลี่คลายความตึงเครียดในคาบสมุทรเกาหลี

อย่างไรก็ตาม แรงบวกในตลาดได้ถูกสกัดลง เนื่องจากหุ้นกลุ่มค้าปลีกร่วงลงเกือบทั้งกระดาน โดยหุ้นโฮม ดีโปท์ ดิ่งลง 2.7% หุ้นอเมซอน ปรับตัวลง 0.1% หุ้นทาเก็ต ร่วงลง 2.6% หุ้นนอร์ดสตรอม ร่วงลง 1.5% หุ้นโคล์ท ดิ่งลง 1.5% หุ้นดอลลาร์ เจเนอรัล ดิ่งลง 3.8%

ทั้งนี้ หุ้นโฮม ดีโปท์ ปิดตลาดร่วงลง แม้บริษัทเปิดเผยกำไรพุ่งขึ้น 9.5% ในไตรมาส 2 สู่ระดับ 2.67 พันล้านดอลลาร์ หรือ 2.25 ดอลลาร์/หุ้น เมื่อเทียบกับระดับ 2.44 พันล้านดอลลาร์ หรือ 1.97 ดอลลาร์/หุ้นในช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว ขณะที่ยอดขายของสาขาที่เปิดดำเนินการนานกว่า 1 ปี เพิ่มขึ้น 6.3% สูงกว่าระดับ 4.9% ซึ่งสอดคล้องกับตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์

หุ้นโคช ผู้จำหน่ายกระเป๋าและสินค้าแฟชั่นชื่อดัง ร่วงลง 15% แม้ว่าบริษัทเปิดเผยกำไรสุทธิในไตรมาส 4 ตามปีงบการเงินของบริษัท เพิ่มขึ้นสู่ระดับ 151.7 ล้านดอลลาร์ หรือ 53 เซนต์/หุ้น จากช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้วที่ระดับ 81 ล้านดอลลาร์ หรือ 29 เซนต์/หุ้น

หุ้นเจเนอรัล อิเล็กทริก (จีอี) ปรับตัวลง 0.9% หลังจากรายงานที่ยื่นต่อคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ของสหรัฐ (SEC) ระบุว่า บริษัทเบิร์กเชียร์ แฮธาเวย์ ของนายวอร์เรน บัฟเฟตต์ ได้ลดการถือครองหุ้นในจีอี

นักลงทุนจับตาข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐในสัปดาห์นี้ ซึ่งรวมถึงตัวเลขการเริ่มสร้างบ้านและการอนุญาตก่อสร้างเดือนก.ค., รายงานการประชุมประจำเดือนก.ค.ของคณะกรรมการนโยบายการเงิน (FOMC) ของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด), จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์, ดัชนีการผลิตเบื้องต้นเดือนส.ค. โดยเฟดฟิลาเดลเฟีย, การผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือนก.ค. และความเชื่อมั่นผู้บริโภคเบื้องต้นเดือนส.ค.จากมหาวิทยาลัยมิชิแกน


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ