ตลาดหุ้นยุโรปปิดลบเมื่อคืนนี้ (5 ก.ย.) เนื่องจากความวิตกกังวลต่อรายงานข่าวที่ว่า เกาหลีเหนืออาจยิงขีปนาวุธครั้งใหม่ หลังจากที่ได้ทดสอบอาวุธนิวเคลียร์เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา นอกจากนี้ ตลาดหุ้นยุโรปยังได้รับแรงกดดันหลังจากผลสำรวจของมาร์กิตระบุว่า ดัชนี PMI ภาคบริการของยูโรโซนชะลอตัวลงในเดือนส.ค.
ดัชนี Stoxx Europe 600 ลดลง 0.1% ปิดที่ 373.71 จุด ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 5,086.56 จุด ลดลง 17.41 จุด หรือ -0.34% ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,372.92 จุด ลดลง 38.55 จุด หรือ -0.52% ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 12,123.71 จุด เพิ่มขึ้น 21.50 จุด หรือ +0.18%
ตลาดหุ้นยุโรปปิดลบติดต่อกัน 2 วันทำการ เนื่องจากนักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับรายงานข่าวที่ว่า เกาหลีเหนืออาจยิงขีปนาวุธครั้งใหม่ หลังจากที่ได้ทดสอบอาวุธนิวเคลียร์เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ขณะที่รายงานล่าสุดจากสื่อเกาหลีใต้ระบุว่า เกาหลีเหนือเริ่มเคลื่อนย้ายขีปนาวุธไปทางชายฝั่งตะวันตกของประเทศ ซึ่งคาดว่าเป็นขีปนาวุธข้ามทวีป (ICBM) โดยเป็นการเคลื่อนย้ายเฉพาะในเวลากลางคืนเท่านั้น เพื่อหลีกเลี่ยงการตรวจจับ
นอกจากนี้ นักลงทุนกังวลว่า ความตึงเครียดระหว่างสหรัฐและเกาหลีเหนืออาจปะทุขึ้นอีกครั้ง หลังจากนายฮาน แต ซอง เอกอัครราชทูตถาวรประจำสหประชาชาติของเกาหลีเหนือ กล่าวเมื่อวานนี้ว่า เกาหลีเหนือได้ส่งของขวัญไปยังสหรัฐเมื่อไม่นานมานี้ และจะมีอีกหลายชิ้นที่จะถูกส่งตามมา
"มาตรการป้องกันตัวของเกาหลีเหนือ ถือเป็นของขวัญมอบให้แก่สหรัฐ และสหรัฐจะได้รับของขวัญอีกหลายชิ้นจากประเทศของผม ตราบใดที่สหรัฐยังคงทำการยั่วยุ และพยายามกดดันเกาหลีเหนือ" นายฮานกล่าวตลาดหุ้นยุโรปยังได้รับแรงกดดันหลังจากไอเอชเอส มาร์กิต ซึ่งเป็นบริษัทให้บริการข้อมูลทางการเงิน เปิดเผยว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคบริการในเดือนส.ค. ปรับตัวลงแตะ 54.7 จากระดับ 55.4 ในเดือนก.ค.
หุ้นเซเลคทิส เอสเอ ซึ่งเป็นบริษัทเวชภัณฑ์ของฝรั่งเศส ดิ่งลง 21% หลังจากคณะกรรมการอาหารและยาของสหรัฐได้สั่งให้บริษัทเซเลคทิสระงับการทดลองยารักษาโรคมะเร็ง
หุ้นเมอร์ก ซึ่งเป็นบริษัทเวชภัณฑ์ของเยอรมนี พุ่งขึ้น 2.4% ขณะที่หุ้นชไนเดอร์ อิเล็กทริก บริษัทอุตสาหกรรมรายใหญ่ของฝรั่งเศส ขยับขึ้น 0.3%