ตลาดหุ้นเอเชียปิดภาคเช้าวันนี้ส่วนใหญ่ปรับตัวลง ในขณะที่ตลาดหุ้นจีนปรับตัวขึ้นหลังจากที่เปิดทำการซื้อขายเป็นวันแรกในวันนี้ โดยได้รับแรงหนุนจากหุ้นกลุ่มธนาคาร แม้ว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคบริการเดือนก.ย.ของจีนไดเปรับตัวลงก็ตาม ขณะที่ตลาดหุ้นโตเกียว, เกาหลีใต้ และไต้หวัน ปิดทำการในวันนี้
ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงปิดภาคเช้าที่ 28,372.55 จุด ลดลง 85.49 จุด, -0.30% ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียปิดภาคเช้าที่ 1,763.98 จุด ลดลง 0.02 จุด, -0.00% ดัชนี SENSEX ตลาดหุ้นอินเดียเปิดวันนี้ที่ 31,862.20 จุด เพิ่มขึ้น 47.98 จุด, +0.15%
สกุลเงินลีราของตุรกีร่วงลงอย่างหนักถึง 6.6% เมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐในช่วงเช้านี้ เนื่องจากเทรดเดอร์แห่ขายสกุลเงินลีราหลังจากสถานทูตตุรกีประจำสหรัฐประกาศระงับการให้บริการวีซ่าประเภท Non-Immigrant Visa ทั้งหมด ที่สถานทูตและสถานกงสุลของตุรกีในสหรัฐ เมื่อวานนี้ตามเวลาท้องถิ่น เพื่อตอบโต้สถานทูตสหรัฐประจำกรุงอังการา เมืองหลวงของตุรกี ที่ประกาศระงับการให้บริการวีซ่าประเภทเดียวกันนี้ ที่สถานทูตและสถานกงสุลของสหรัฐในตุรกี
สำหรับความเคลื่อนไหวด้านการเมืองนั้น เมื่อวานนี้ ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ได้โพสต์ข้อความผ่านทางทวิตเตอร์ว่า "มีเพียงสิ่งเดียวที่จะจัดการกับเกาหลีเหนือได้" หลังจากที่การเจรจากับเกาหลีเหนือไม่ประสบผลสำเร็จ
ข้อความบนทวิตเตอร์ของนายทรัมป์ระบุว่า "ประธานาธิบดีสหรัฐและรัฐบาลหลายสมัยได้พยายามเจรจากับเกาหลีเหนือมาเป็นเวลากว่า 25 ปี โดยเราได้มีการทำข้อตกลงต่างๆ และเสียเงินไปกับเรื่องนี้เป็นจำนวนมหาศาล แต่ก็ไม่ประสบผลสำเร็จ เนื่องจากเกาหลีเหนือละเมิดข้อตกลงก่อนที่หมึกลงนามจะแห้งเสียอีก เพราะฉะนั้น คงมีเพียงสิ่งเดียวที่จะจัดการกับเกาหลีเหนือได้!"
ข้อมูลเศรษฐกิจที่ได้มีการเปิดเผยแล้วในวันนี้ ได้แก่ ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคบริการเดือนก.ย.ของจีน ซึ่งมาร์กิตและไฉซิน ร่วงลงแตะระดับ 50.6 จากระดับ 52.7 ในเดือนส.ค. โดยดัชนี PMI ภาคบริการเดือนก.ย.ถือเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 21 เดือน
อย่างไรก็ตาม ดัชนี PMI ที่เคลื่อนไหวเหนือระดับ 50 บ่งชี้ว่าภาคบริการของจีนยังคงขยายตัว และดัชนีที่เคลื่อนไหวต่ำกว่า 50 บ่งชี้ถึงภาวะหดตัว
ขณะที่นักลงทุนต่างรอดูรายงานการประชุมประจำวันที่ 19-20 ก.ย.ของคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (FOMC) ในวันพุธนี้อย่างใกล้ชิด เพื่อจับสัญญาณว่า คณะกรรมการ FOMC จะหารือกันเพิ่มเติมเกี่ยวกับแนวโน้มการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปีนี้หรือไม่